ตำรวจจับคุมตัว แก๊งเด็กช่างรุมทำร้ายกู้ภัย ทุบรถพยาบาลพังยับทั่วคัน ล่าสุด! ไม่สลดยังท้าทายผู้ต้องหาคนอื่น ในโรงพักต่อ
สืบเนื่องจากกรณีที่ได้รับรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากได้มีการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเหตุผู้ได้รับบาดเจ็บ กระจกบาดที่บริเวณมือ จึงรุดเข้าไปช่วยเหลือ แต่กลับถูกเด็กช่างกลุ่มนี้ รุมทำร้ายตนและทุบรถจนพังเสียหายทั้งคัน เพียงเพราะพูดว่า “ไปโรงพยาบาลเองได้ไหม” ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปนั้น
สำหรับ สาเหตุที่ นายพิเชษฐ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ไม่พาคนเจ็บไป รพ. เนื่องจากฝ่ายคนเจ็บอ้างว่า จะขอเสพยาบ้าในรถ ทำให้ นายพิเชษฐ์ ไม่ยินยอมและให้อีกฝ่ายไป รพ. เอง เนื่องจากไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่พอใจยกพวกรุมทำร้าย ขณะที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด โดยพบว่า นายภูมิบดินทร์ นามสุดใจ หนึ่งในกลุ่ม และเป็นคนที่โดนกระจกบาดร้องขอความช่วยเหลือนั้น มีสารเสพติดในร่างกาย และยังพบยาบ้าจำนวนหนึ่งด้วย
ล่าสุด วันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว นำกำลังคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ประกอบไปด้วย
1.นายภูมิบดินทร์ นามสุดใจ อายุ 25 ปี
2.น.ส.ลดาวรรณ ปุริตาเนย์ อายุ 30 ปี
นำตัวฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี
3.นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี
4.นายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี
5.นายซี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี
นำตัวฝากขังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
เนื่องจากร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายพิเชษฐ์ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งก่อนจะคุมตัวไปฝากขังนั้น ปรากฏว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ตะโกนท้าทายผู้ต้องหาในห้องขังที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม มีการปาขวดน้ำพลาสติกใส่ ตะโกนด่าทอญาติที่มาเยี่ยม ทำนองว่าเสียงดังน่ารำคาญ
ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แยกผู้ต้องหาออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากมีเยาวชน 3 คน และผู้ใหญ่ 2 คน ผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนจะส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่จะส่งศาลอาญามีนบุรี โดยทุกคนถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และทำให้เสียทรัพย์
ส่วนผู้ต้องหา 1 คน คือนายภูมิบดินทร์ พบสารเสพติดในร่างกาย ได้ดำเนินคดีข้อหาเสพและครอบครองยาเสพติดเพิ่มเติม โดยไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งผู้ต้องหาสามารถยื่นขอประกันตัว เพื่อให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลได้
