อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เรียกร้องประชาชนหลีกเลี่ยงการรักษาโควิด19 ด้วยวิธีพื้นบ้าน และแนะนำให้ไปรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพจากโรงพยาบาล
ซูจีแถลงข่าวทางโทรทัศน์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ก.ย. 63 ว่า “เราพบว่าเมื่อประชาชนบางคนคิดว่าตนติดเชื้อ พวกเขาจะพยายามเยียวยาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้าน และจะไปโรงพยาบาลเฉพาะเวลาที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีดังกล่าวได้สำเร็จ”
ซูจีสนับสนุนให้ผู้คนไปโรงพยาบาลตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เนื่องด้วยการควบคุมโรคและการรักษาจะเป็นเรื่องยากลำบาก หากผู้ป่วยถูกส่งไปโรงพยาบาลเฉพาะหลังเข้าสู่ระยะติดเชื้อ
“การที่ผู้คนพยายามรักษาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้านอาจเป็นผลมาจากข่าวสาวที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งการปฏิบัติตามวิธีรักษาแบบนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบแนวทางแน่นอนในการป้องกันโรคโควิด19”
ซูจีระบุว่ารัฐบาลได้จัดเตรียมโรงพยาบาลในเขตและเมืองให้พร้อมรองรับการตรวจโควิด19 อีกทั้งขอความช่วยเหลือและความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และแพทย์จากภาคเอกชน เพื่อเพิ่มจำนวนบุคคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลด้วย
อีกทั้ง ทางการจะแจกจ่ายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในเขตและเมืองในเร็วๆ นี้ เพื่อที่จะสามารถดำเนินการตรวจโควิด19 ได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ ซูจียังแนะนำประชาชนว่าอย่ากังวลต่อสถานการณ์ปัจจุบันมากเกินไป แต่ให้กังวลในระดับที่พอดีเพราะจะมีผลต่อการตระหนักรู้ถึงผลกระทบของโรค
“ความวิตกกังวลมากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลง ภาวะเครียดที่เกิดจากความกังวลอาจทำให้เราสูญเสียภูมิคุ้มกันโรค และเราไม่ต้องการให้ผู้คนกังวลโดยไม่จำเป็น”
ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขและกีฬา รายงานว่าเมียนมาตรวจพบผู้ป่วยโควิด19 สะสม 9,112 ราย และผู้เสียชีวิต 174 ราย เมื่อนับจนถึงเมื่อวันที่ 25 ก.ย.