เยอรมัน – วันที่ 3 พ.ย. สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบสองอาจช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกใหม่ในเยอรมนี
แมร์เคิลกล่าวกับสื่อมวลชน ว่า เราอาจยับยั้งการแพร่ระบาดระลอกสองนี้ได้ หากเราล็อกดาวน์ต่อเนื่อง 1 เดือน ซึ่งหมายความว่าเราทุกคนต้องละทิ้งการใช้ชีวิตประจำวันที่ปกติสุขนาน 4 สัปดาห์ รัฐบาลกลางและรัฐบาลระดับรัฐของเยอรมนีเห็นพ้องจะจำกัดวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน อาทิ ปิดร้านอาหารและบาร์ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากจำนวนผู้ป่วยใหม่เมื่อวันเสาร์ (31 ต.ค.) พุ่งสูงทุบสถิติที่มากกว่า 19,000 ราย
เลือกตั้งสหรัฐ โค้งสุดท้าย! ชาวสหรัฐสร้างประวัติศาสตร์ แห่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเกือบ 100 ล้านคน
UN เป็นแค่เสือกระดาษ? ส่งรายชื่อแกนนำชาวอุยกูร์ให้จีน อาชญากรรมหรือไม่?
พร้อมทั้งเตือนว่าเยอรมนีอาจไม่สามารถแกะรอยแหล่งที่มาของการติดเชื้ออย่างชัดเจนได้อีกต่อไป เนื่องจากเราไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยร้อยละ 75 ในเยอรมนีมีแหล่งที่มาของการติดเชื้อจากที่ใด
เลือกตั้งสหรัฐ ผลสำรวจล่าสุดชี้ ไบเดน ยังมีแต้มต่อ ทรัมป์ 10 จุด
ทั้งนี้ สถาบันโรเบิร์ต ค็อก (Robert Koch) หน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 12,097 ราย ในวันจันทร์ (2 พ.ย.) ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 545,027 ราย และพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 49 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 10,530 ราย
แมร์เคิลเน้นย้ำว่าเยอรมนีต้องช่วยกันลดจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ราว 127.8 รายต่อประชากร 100,000 คน ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ราย ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงจำเป็นต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างสม่ำเสมอและลดการติดต่อสัมผัสทุกที่ที่สามารถทำได้
“ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อผ่านพ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วยความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราสามารถแกะรอยแหล่งที่มาของการติดเชื้อได้อีกครั้ง” แมร์เคิลกล่าว พร้อมเสริมว่าหากเยอรมนีประสบความสำเร็จในการชะลอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า อาจทำให้เดือนธันวาคมมี “อิสระมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมนี สหราชอาณาจักร จีน รัสเซีย และสหรัฐฯ กำลังแข่งกับเวลาในการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติอีกครั้ง