จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 พ.ย. พบว่าโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปี 2563 จากพรรคเดโมแครต ยังมีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ถึง 10 จุด
ก่อนวันเลือกตั้งเพียงสองวัน สำนักข่าวเอ็นบีซี นิวส์ และวอลล์สตรีทเจอร์นัล เผยผลสำรวจความเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งระดับชาติ โดยคะแนนนิยมของไบเดนอยู่ที่ 52% ขณะที่เสียงสนับสนุนทรัมป์อยู่ที่ 42%
เช็คเลย! 7 ข้อมูล น่ารู้สำหรับการ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ผลสำรวจครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนี้พบว่าไบเดนนำหน้าทรัมป์ถึง 6 จุด ใน 12 รัฐสวิงสเตท ได้แก่ แอริโซนา ฟลอริดา จอร์เจีย ไอโอวา เมน มิชิแกน มินนิโซตา นอร์ธแคโรไลนา นิวแฮมป์เชียร์ เนวาดา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน โดยคะแนนอยู่ที่ร้อยละ 51 ต่อ 45
โจ ไบเดน นักการเมืองผู้ผ่านมรสุมชีวิต จนคิดฆ่าตัวตาย สู่ผู้ท้าชิงทรัมป์ในศึกเลือกตั้งสหรัฐ
โดยการสำรวจความคิดเห็น ที่ทำระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค. ยังระบุว่าไบเดนมีคะแนนเหนือกว่าทรัมป์ในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวดำ (ร้อยละ 87 ต่อ 5) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอายุระหว่าง 18-34 ปี (ร้อยละ 60 ต่อ 32) ผู้สูงอายุ (ร้อยละ 58 ต่อ 35) ผู้สูงอายุ (ร้อยละ 58 ต่อ 35) ผู้หญิง (ร้อยละ 57 ต่อ 37) คนผิวขาวที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี (ร้อยละ56 ต่อ 41) และผู้ออกเสียงอิสระ (ร้อยละ 51 ต่อ 36)
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังคงครองเสียงข้างมากในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวขาว (ร้อยละ 51 ต่อร้อยละ 45) และคนผิวขาวที่ไม่มีวุฒิปริญญาตรี (ร้อยละ 58 ต่อร้อยละ 37)
เลือกตั้งสหรัฐ เทียบนโยบายทรัมป์-ไบเดน จะมีผลต่ออาเซียนและโลกอย่างไรบ้าง
อีกทั้ง ผลสำรวจยังพบว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 57% ไม่เห็นด้วยกับผลงานในการจัดการการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทรัมป์ ขณะที่ 55% พอใจกับการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์
การสำรวจความคิดเห็นนี้เผยแพร่ออกมาในช่วงที่ผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสองกำลังเรียกคะแนนเสียงในรัฐสวิงสเตท โดยไบเดนไปเยือนรัฐเพนซิลเวเนียในวันที่ 1 พ.ย. ขณะที่ทรัมป์เดินหน้าหาเสียงอีก 5 ครั้ง ใน 5 รัฐสำคัญ คือ มิชิแกน ไอโอวา นอร์ธแคโรไลนา จอร์เจีย และฟลอริดา ในช่วงโค้งสุดท้าย