สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่าเกิดเหตุวัยรุ่นชาย ฆ่าตัดคอ พี่สาววัย 19 ปี ตามรายงานระบุว่าเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองไวจาปูร์ รัฐมหาราษฏระของอินเดีย โดยพี่สาวของผู้ก่อเหตุได้ไปแต่งงานกับชายหนุ่ม ที่ทางครอบครัวไม่ได้เห็นชอบให้แต่งงานด้วยเมื่อ 5 เดือนก่อน และในเวลานี้เธอก็ได้ตั้งครรภ์แล้ว 2 เดือน
หลังจากที่แต่งงานแล้ว พี่สาวของวัยรุ่นที่ก่อเหตุก็ไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวอีกเลย และอาศัยอยู่กับสามี ซึ่งทำให้ครอบครัวของเธอไม่พอใจอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา น้องชายและแม่ของเธอได้มาเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งเธอก็ได้ต้อนรับและให้ดื่มชา แต่ในจังหวะนั้นเอง น้องชายของเธอก็ได้ใช้เคียวตัดหญ้า ทุบศีรษะพี่สาวตัวเองถึง 4 ครั้ง จนกระทั่งเธอสลบไป จากนั้นก็ได้ใช้มีดตัดคอของเธออย่างโหดเหี้ยม โดยมีผู้เป็นแม่คอยช่วยจับขาของพี่สาวไว้ไม่ให้ดิ้น
หลังก่อเหตุเสร็จ วัยรุ่นที่ก่อเหตุและแม่ยังได้ภาพภาพเซลฟี่กับศีรษะ พร้อมกับนำศีรษะของพี่สาวตัวเองออกมาวางไว้หน้าบ้าน และปล่อยร่างไร้วิญญาณของเธอทิ้งไว้ในบ้านด้วย
ด้านตำรวจเปิดเผยว่าในช่วงที่เกิดเหตุ สามีของผู้เสียชีวิตก็อยู่ในบ้านด้วย แต่วันนั้นเขาไม่สบายจึงนอนพักอยู่ในห้อง โดยสามีผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ตนได้ยินเสียงดังโวยวาย จึงตื่นขึ้นมาดู แต่เมื่อน้องชายของภรรยาเห็นตน จึงเข้ามาทำร้าย ทำให้เขาต้องรีบหนี
ขณะที่วัยรุ่นชายที่ก่อเหตุและแม่ของเขาได้เดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจ และสารภาพว่าตนเป็นคนลงมือฆ่า โดยในเวลานี้ ตำรวจเตรียมตั้งข้อหาฆาตกรรมกับทั้งสองคน พร้อมกับระบุว่าเหตุฆาตกรรมดังกล่าวเป็นการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติของครอบครัว เนื่องจากพี่สาวของเขา ไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ครอบครัวต้องการ ซึ่งทำให้ครอบครัวเสื่อมเสียเกียรติอย่างมาก โดยในเวลานี้ ผู้ก่อเหตุได้ถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจ เนื่องจากมีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอินเดียเปิดเผยว่ามี การฆ่าเพื่อรักษาเกียรติเกิดขึ้นในอินเดียถึง 23 ครั้งในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยเหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง หรือเด็กผู้หญิง ที่มักถูกผู้ชายในครอบครัวฆ่าฐานไม่เชื่อฟัง หรือสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัว
อ้างอิง CNN
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
สลด! ทหารเมียนมา สังหารโหด กราดยิง เผาพลเรือนทั้งเป็น 11 ศพ
อย่าหาทำ! ชายอิตาลีใส่แขนปลอมหลอกหมอ เพื่อ ฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด19
ตำรวจวางแผนล่าสาว Onlyfans โชว์คลึงสองเต้าในลานจอดรถของสนามบิน พบเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นที่สาธาณะ