เว็บไซต์ข่าวยูโรนิวส์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากวารสารทางการแพทย์แลนเซ็ท ซึ่งระบุว่าผู้ที่ฉีด วัคซีนไฟเซอร์ มีอัตราความเสี่ยงที่จะเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันเท่ากับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตาเซเนกา
ผลการศึกษาดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันของจากสถาบัน IDIAP Jordi Gol ในเมืองบาร์เซโลนาของสเปน ซึ่งประกอบไปด้วยทีมนักวิจัยจากสเปน อังกฤษและเนเธอร์แลนด์ ที่ได้เก็บข้อมูลจากผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด19 กว่า 1 ล้าน 3 แสนคน ซึ่งแบ่งเป็นผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 945,941 คน และเป็นผู้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา 426,272 คน ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปนเพื่อศึกษาอาการลิ่มเลือดอุดตัน หลังเข้ารับการฉีดวัคซีน
เปิดไทม์ไลน์ วัคซีนไฟเซอร์ ต้องผ่านขั้นตอนใดบ้างก่อนนำไปฉีด และกลุ่มใดจะได้ฉีดบ้าง?
ข้อมูลจากการวิจัยพบว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันจะเกิดในผู้ที่รับวัคซีนแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์สูงกว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน 1.3 เท่า และมีอัตราการเกิดลิ่มเลือดอุดตันสูงกว่าผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด19 ถึง 8 เท่า นอกจากนี้ยังพบว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันจะพบส่วนใหญ่ในผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาและวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรกมากกว่าการฉีดเข็มที่ 2
มาเลเซียเตรียมสั่งเบรก หยุดฉีด วัคซีนซิโนแวค เตรียมเดินหน้าใช้วัคซีนไฟเซอร์เป็นหลัก
ทั้งนี้ ผลการวิจัยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ EMA ระบุเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า วัคซีนแอสตราเซเนกามีส่วนทำให้เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันชนิดที่เกิดขึ้นได้ยากและเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งส่งผลให้หลายประเทศจำกัดอายุของผู้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเพื่อป้องกันความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันตามร่างกาย
เปิดข้อมูล ‘วัคซีนไฟเซอร์’ BioNTech ชี้ทั่วโลกใช้ ผสมน้ำเกลือ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย!