แอนโmนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อชื่อดังของสหรัฐ เตือนถึง วัคซีนต้านโควิด ที่คิดค้นและวิจัยโดยจีนและรัสเซีย ว่าให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย
คำถามจากสภาคองเกรสได้ถามว่าหากมีวัคซีน โควิด19 จากรัสเซียและจีนผลิตออกมาก่อน สหรัฐควรใช้หรือไม่ ซึ่งฟาวซีได้ตอบว่า “ผมหวังว่าจีนและรัสเซียจะทดสอบวัคซีนจริงๆ ก่อนจะฉีดให้ทุกคน การอ้างว่ามีวัคซีนพร้อมออกสู่ท้องตลาดก่อนที่จะทำการทดสอบค่อนข้างน่าสงสัย”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด โควิดไม่ทันหาย ซาลโมเนลลา ระบาดต่อในสหรัฐ
เขาได้กล่าวต่อว่า “ผมไม่เชื่อว่าจะมีประเทศอื่นผลิตวัคซีนได้ก่อนสหรัฐ และเชื่อว่าสหรัฐไม่จำเป็นต้องพึ่งพาประเทศอื่นเพื่อให้ได้วัคซีน”
สื่อจีนรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า วัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท CanSino Biologics ถูกนำมาฉีดให้กับทหารจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำมาใช้กับมนุษย์ แม้ว่าจะใช้ในวงจำกัดก็ตาม แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนแสดงความกังวลด้านจริยธรรม เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวยังไม่ผ่านการทดสอบในระยะสุดท้าย หรือก็คือการทดลองใช้ในมนุษย์
อินเดีย ยังวิกฤต ติด โควิด19 กว่า 1.7 ล้านคน เสียชีวิต 37,364 ราย
ไม่ยอมน้อยหน้าใคร! รัสเซีย ประกาศ ฉีดวัคซีนต้าน โควิด-19 ให้ปชช. ตุลาคมนี้
ในปี 2561 วัคซีนของจีนเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก หลังจากมีการฉีดวัคซีนคอตีบ บาดทะยัก และไอกรนให้กับเด็กกว่า 200,000 คน แต่วัคซีนดังกล่าวยังมีข้อบกพร่อง ทำให้เด็กบางรายมีอาการอัมพาต
ส่วนรัสเซียที่ประกาศว่าจะผลิตวัคซีนออกสู่ตลาดได้เร็วที่สุดภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยกำลังพัฒนาวัคซีน 2 ตัว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนทั้งสอง
อย่างไรก็ตาม คาดว่าวัคซีนจากทั้งจีนและรัสเซียจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด หากทั้งสองประเทศผลิตวัคซีนออกสู่ตลาดได้สำเร็จ เนื่องจากระบบการกำกับดูแลการผลิตยาของทั้งสองประเทศยังขาดความโปร่งใส เมื่อเทียบกับในประเทศตะวันตก