ทนายตั้ม เดินทางเข้าแจ้งความ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ หรือ บิ๊กต่อ กับภรรยา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน พร้อมประสาน พิมพ์วิไล เจ้าของเว็บพนันให้การในฐานะพยาน
โดยล่าสุดวันนี้ (1 เม.ย. 67) นักกฎหมายวัย 42 ปีได้มีการเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับภรรยา รวมถึงบัญชีม้าอีก 2 บัญชี ที่ สน.เตาปูน เขตบางซื่อ กทม. ในข้อหา รวมกันฟอกเงิน สบคบกันฟอกเงิน วันนี้ตนได้เตรียมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้มีการแถลงข่าวไปแล้ว และในเรื่องของเส้นเงินมอบกับ พนง.สอบสวน เป็นหลักฐานสำคัญในการเอาผิด
นอกจากนี้ ทนายตั้มยัง ย้ำว่าวันนี้ ดำเนินคดีจริง ไม่ได้แจ้งความเป็นหลักฐานอย่างเดียว โดยหลักฐานเป็นชุดเดียวกับที่มอบให้กับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) จำนวน 175 แผ่น
ทนายตั้ม กล่าวว่า ที่อีกฝ่ายถอนฟ้องตนเองนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเกรงว่าจะมีการไปขอสเตทเมนต์คนในครอบครัวออกมา โดยวันนี้เสร็จจากที่โรงพักก็จะเดินทางไปที่ศาล เพื่อขอคัดคำฟ้องร้องเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่ายังจะมีอะไรที่เป็นเท็จหรือไม่ ถ้ามีก็อาจต้องดำเนินการต่อไป
ขณะเดียวกันในส่วนของตนยังได้มีการนัดพยานไว้โดยกำลังประสานกับ “พิมพ์วิไล” (ผู้บริหารเว็บพนัน BNK Master) และก็พยานที่เป็น “สายลับ” เพื่อเข้าสอบปากคำ คาดว่าวันพุธหรือวันพฤหัสที่จะพาพยานเข้าให้ข้อมูล
เมื่อถามถึงเรื่องการเอาผิดว่าวันนี้เดินมาสุดทางหรือยัง ? ทนายตั้มก็ตอบว่าก็ตามให้ถึงที่สุด แจ้งดำเนินคดีแล้วและเตรียมสอบพยาน จากนี้ก็ต้องรอดูการทำงานของพนักงานสอบสวนว่า ทำตามที่ทำตามเหมือนทุกคดีรึเปล่า ถ้าเกิดพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการ ตนก็จะดำเนินคดีกับ พนง.สอบสวนต่อ
ส่วนที่ว่าหนักใจหรือไม่ นักกฎหมายที่กำลังงัดข้อกับผู้บัญชาการระดับบิ๊กในสำนักงานตำรวจตอบชัดเจน ตนเองมั่นใจตั้งแต่ส่งหมายให้นักข่าวตั้งแต่สองวันที่แล้ว ดังนั้นทั้งหมดคิดมาดีแล้ว หลักฐานการโพสต์จากวัดเป็นการยืนยันได้ว่า ผบ.ตร. มีอำนาจในการควบคุมและก็สั่งการบัญชีที่เป็นบัญชีม้า ที่รับส่วยมาทั้ง “คชาชาญ” กับ “ณัฐพงษ์” ถ้าเกิดไม่มั่นใจก็คงไม่กล้าที่จะดำเนินคดีกับ ผบ.ตร. เพราะมีโอกาสที่จะถูกดำเนินคดีกลับสูง.
