ทช. ผ่าชันสูตรซาก วาฬโอมูระ กรามด้านขวาหัก ยืนยันเป็นฝีมือของมนุษย์ ถูกเชือกดึงรั้งอย่างแรง สำลักน้ำก่อนตาย
จากกรณี วาฬโอมูระ วาฬสายพันธุ์หายากเกยตื้นบริเวณหาดทุ่งทะเล ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นชาวบ้านพยายามช่วยเหลือเนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์กรามด้านขวาหัก ต่อมาวาฬได้เสียชีวิตลง

ล่าสุด กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เผยผลการผ่าชันสูตร วาฬโอมูระ ระบุว่า “ผลชันสูตรซากวาฬโอมูระ เกาะลันตา เป็นเพราะกิจกรรมมนุษย์”
วันที่ 7 มกราคม 2563 กรม ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน รายงานผลการผ่าชันสูตรซากวาฬที่เกยตื้นบริเวณหาดทุ่งทะเล ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าเป็นวาฬโอมูระ ขนาดความยาวลำตัว 3.6 เมตร อายุไม่เกิน 1 ปี เพศผู้ สภาพสมบูรณ์ มีบาดแผลจากการเกยตื้นรอบลำตัว และพบบาดแผลฉกรรจ์ บริเวณกรามล่างด้านขวา กระดูกขากรรไกรหัก ร่วมกับมุมปากฉีกขาดจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ มีร่องรอยการเสียดสีของเชือกบริเวณกรามทั้งสองข้าง ซึ่งคาดว่าบาดแผลเกิดจากการถูกเชือกดึงรั้งอย่างแรง จนทำให้กระดูกขากรรไกรหัก กล้ามเนื้อบริเวณกระดูกขากรรไกรฉีกขาด
พบว่ามีการอักเสบติดเชื้อบริเวณโดยรอบบาดแผลและกระดูก และนอกจากนี้มียังพบฟองอากาศออกจากช่องหายใจจำนวนมาก เนื่องจากมีการสำลักน้ำก่อนเสียชีวิต ตรวจสอบความผิดปกติของอวัยวะภายใน พบความผิดปกติของม้ามบ่งชี้ว่ามีการเสียเลือดและมีการติดเชื้อในร่างกาย ส่วนของทางเดินอาหารไม่พบอาหารตลอดทางเดินอาหาร เนื่องมาจากการบาดเจ็บที่บริเวณกรามทำให้ไม่สามารถหาอาหารได้ตามปกติ

น้ำมือมนุษย์ฆ่าวาฬโอมูรทั้งเป็น!
ทั้งนี้สาเหตุการเสียชีวิตจึงระบุได้ว่า เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ จึงได้เก็บตัวอย่างผิวหนังและชิ้นเนื้อ เพื่อตรวจวิเคราะห์ทางพันธุกรรม และเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในเพื่อส่งตรวจโลหะหนักและสารชีวพิษ (biotoxin) พร้อมเก็บตัวอย่างกระดูกขากรรไกรเพื่อตรวจระยะเวลาการเกิดบาดแผลที่แน่ชัด และเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในเพื่อตรวจรอยโรคทางจุลพยาธิวิทยาทางห้องปฏิบัติการต่อไป


อ่านข่าว Bright Today