รมว.คมนาคม สั่งเจ้าท่าปฏิบัติตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ รับมือ น้ำมันดิบมาบตาพุด ผู้เชี่ยวชาญ เผย ปริมาณมากกว่าปี 65
วันนี้ (26ม.ค.65) นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า ได้รับรายงานเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกเดี่ยวกลางทะเล ท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง จากการตรวจสอบไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดที่รั่วไหลนั้นทราบว่าเกิดจากท่อขนส่งน้ำมันดิบใต้ทะเล ปรากฎคราบน้ำมันครอบคลุมพื้นที่ กว้าง 200 เมตร ยาว 600 เมตร ส่วนปริมาณในการรั่วไหลยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน
ทั้งนี้ตนได้สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่าปฏิบัติตาม “แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ” โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่งเนื่องจากทิศทางลมพัดขึ้นไปทางด้านเหนือซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดระยองได้ รวมทั้งให้รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล เผย น้ำมันดิบ อย่างน้อย 4 แสนลิตร รั่วนอกฝั่ง เป็นกรณีคล้ายเกาะเสม็ด น้ำมันดิบเหมือนกัน รั่วนอกฝั่งเหมือนกัน แต่ปริมาณหนนี้เยอะกว่า
จุดแตกต่างนอกจากปริมาณ คือปัจจัยสิ่งแวดล้อม ลมพัดขึ้นเหนือไม่ค่อยแรง ต่างจากครั้งก่อนที่ลมพัดไปทางตะวันออก ค่อนข้างแรง พื้นที่เกิดผลกระทบอาจต่างกัน หนนี้น่าจะเป็นชายฝั่ง เมืองระยอง หาดแม่รำพึง ก้นอ่าว ฯลฯ ตรงนั้นเป็นหาดทรายยาว หากน้ำมันดิบมาถึงหาดทราย อาจเกิดคราบดำบนหาดหรือเกิดก้อนน้ำมันดิบ
การกำจัดคราบน้ำมันจากหาดทรายทำยากมาก เราอาจใช้แผ่นซับ เก็บก้อนน้ำมันดิน ไปจนถึงตักหน้าทรายออก แต่ทุกอย่างยากหมด วิธีดีสุดคืออย่าให้ถึงฝั่ง ลมค่อนข้างเบา พอมีเวลา ใช้บูมดัก กวาดน้ำมันออก ใช้สารเคมีทำให้จมตัวลง
เน้นย้ำว่าสารเคมีต้องใช้ในที่ลึก อย่าใช้ในที่ตื้นเกินไป เพราะน้ำมันกับสารจะแตกตัวไม่ทัน ไปกองที่พื้นก่อน ความลึกแค่ไหนมีในคู่มือการใช้อยู่แล้ว ขอเพียงทำตามและระวังให้มาก เพราะพื้นทะเลแถวนั้นเป็นแหล่งประมงพื้นบ้าน
ตอนี้หลายท่านลงพื้นที่แล้ว แต่ข้อจำกัดของเราอยู่ที่อุปกรณ์ แม้จะมีการพัฒนาการรับมือจากประสบการณ์คราวก่อน แต่ยังต้องระวังเพราะครั้งนี้ถือว่าเยอะ
กรมควบคุมมลพิษใช้โมเดล คาดว่าจะถึงฝั่ง 180,000 ลิตร ถือว่าเยอะจนน่าเป็นห่วง ระบบนิเวศหลักๆ ที่ได้ผลกระทบคือหาดทราย พื้นที่เฝ้าระวังอย่างมากคือเมืองระยองถึงก้นอ่าว หญ้าทะเลอยู่ที่บ้านเพ/สวนสน อาจได้รีบผลบ้างแต่คงน้อย เพราะช่วงนี้น้ำไม่ลงต่ำจนแห้ง คราบน้ำมันไม่น่าลงไปบนหญ้าโดยตรงทิศทางลมไม่ได้ไปทางเกาะเสม็ด แนวปะการังอาจได้รับผลไม่มาก แต่ควรเฝ้าระวังในพื้นที่เดิม เช่น อ่าวพร้าว สรุปแล้วให้เน้นหาดทรายกับพื้นท้องทะเลเป็นหลักความคืบหน้าจะแจ้งมาเรื่อย ๆ
ข่าวที่น่าสนใจ
เจ้าของหออึ้ง! เปิดห้อง สาวค้างค่าเช่า 2 เดือน เจอสภาพนี้ ทางเดินยังไม่มี อยู่ไปได้ไง!
คนไข้ช้ำหนัก หมอลืมผ้าก็อซในนม หลังศัลยกรรมอักเสบจนหนองไหล ปัดรับผิดชอบ