เผยใจหลวงพี่ อ้างโดนกลั่นแกล้ง ไม่เคยพาใครขึ้นกุฎิ บอกทำไม่ได้ ลั่นชีมาหาเพราะแรงศรัทธา หวังแค่ล้างซวยหลังเหยียบแมวตาย
ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค. 2567 ลงมติแล้วจากคณะกรรมการหมู่ ให้พระพี่ชายและลูกศิษย์ของพระเอ อายุ 45 ปี กำลังขนย้ายข้าวของและอัฐบริขารส่วนตัวพระไปจำวัดอื่น หลังมีชาวบ้านฟ้องร้องเรื่องพระให้แม่ชีขึ้นกุฎิ ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการลงโทษถึงขั้นสึกให้ลาสิกขา จากกรณีถูกกล่าวหามีแม่ชีมาหาและกระโดดจากกุฏิกลางดึก
พระถึงกับเล่าทั้งน้ำตาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนถูกกลั่นแกล้ง ไม่อยากให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสเพราะที่ผ่านมาอยู่ที่วัดนี้มากกว่า 10 ปี เคยจะขึ้นเป็นเจ้าอาวาสได้เป็นรักษาการอยู่สักพัก ก่อนถูกหาเรื่องจนโดนปลดเป็นเพียงพระลูกวัด จนกระทั่งมาเกิดเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาพร้อมพาเข้าไปดูภายในกุฏิ
พระเล่าว่า “วันเกิดเหตุแม่ชีไม่ได้ขึ้นมาบนกุฏิและไม่ได้กระโดดออกจากกุฏิ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีตู้เก็บของขนาดใหญ่ตั้งบังอยู่ และหากจะเคลื่อนย้ายต้องใช้แรงมากถึงจะสามารถเปิดหน้าต่าง ที่มีหน้าต่างมุ้งลวดอีกชั้นได้ เนื่องจากเวลาเปิดของหน้าต่างจะชนตู้ ต้องเคลื่อนตู้ให้พ้นรัศมีการเปิดออกมา เมื่อเปิดหน้าต่างไปได้ ก็จะมีโครงเหล็กตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์ และในจุดดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่างมองเห็น อาจจะพลาดเหยียบแล้วตกได้รับบาดเจ็บได้”
เพิ่มเติมอีกว่า เล่าอีกว่า อาตมาบวชมานานและจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านจับตัวหญิงแต่งชุดขาวว่าเป็นแม่ชีกระโดดออกจากกุฏินั้น หญิงรายดังกล่าวชื่อนางบี เป็นแม่ชีจริงบวชที่วัดใน ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ก่อนหน้านี้นางบีมีสามีและได้หย่าขาดกับสามีชาว จ.พระนครศรีอยุธยา และได้บวชชีด้วยศรัทธาที่มีต่ออาตมา นับถือผูกเป็นพี่น้องโดยแม่ชีบีนับถืออาตมาเป็นพี่ชาย โดยก่อนเกิดเรื่องนั้น แม่ชีมาหาอาตมาที่วัดแล้วบอกว่า ขับรถเหยียบแมวตาย จึงมาหาอาตมา เพื่อล้างซวย ล้างบาปให้ โดยเริ่มทำพิธีในช่วงเย็นวันที่ 30 เม.ย.67 ต่อด้วยเย็นวันที่ 1 พ.ค. และเย็นวันที่ 2 พ.ค. เป็นเย็นสุดท้ายที่จะทำพิธีล้างซวยให้ ด้วยการเอาน้ำล้างบาตรราดที่ตัวรถของแม่ชี
รถที่มาส่งเป็นรถของญาติ จากนั้นจึงทำพิธีล้างซวยที่รถให้เสร็จพิธีช่วงสามทุ่มกว่า จึงเดินเข้ากุฏิปิดไฟเมื่อจะนอน จากนั้นมีเสียงผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจและชาวบ้านมาเรียกเพื่อขอตรวจค้นกุฏิ จึงออกจากกุฏิมาคุยกันที่ศาลาหน้ากุฏิและไม่ให้ค้นกุฏิเพราะไม่รู้ว่าค้นด้วยเหตุใดเกิดอะไรขึ้นจึงไม่ให้ค้น ไม่นานได้ยินชาวบ้านตะโกนจับตัวได้แล้วและคุมตัวแม่ชีเดินมาที่ศาลาหน้ากุฏิ พร้อมบอกว่าคุมตัวแม่ชีไว้ได้ หลังจากกระโดดลงมาจากหน้าต่าง
เมื่อมติของพระและชาวบ้านเห็นตรงกันก็ปฏิบัติตามว่าจะออกจากวัด จึงเรียกญาติโยมมาขนของออกจากกุฏิไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น เพื่อความสงบสุขของญาติพี่น้องในหมู่ และไม่ขอปฏิเสธใดๆ กับเรื่องดังกล่าว แม้ว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ไม่ขอโต้เถียง
