พี่ชายมือยิงภรรยาดับ เชื่อปมเหตุเกิดจากปัญหาเรื่องเงิน เผยน้องชายนำบ้านมรดกเข้าแบงก์-ผู้ตายยืมเงินไปหลักล้าน – อยากขอโทษครอบครัวฝ่ายหญิง พร้อมขออโหสิกรรม
วันที่ 10 มิถุนายน 2568 ความคืบหน้าคดีสามียิงภรรยาวัย 36 ปี เสียชีวิต ทิ้งศพไว้ในรถเก๋งหน้าบ้าน ส่วนตัวเองหนีเข้าบ้าน ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า พี่ชายของนายมีนาพัฒน์ หรือวุฒิ อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาขอเข้าเยี่ยมน้องชาย พร้อมกับเปิดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยพี่ชายของนายวุฒิ เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เนื่องจากทางครอบครัวทราบว่า เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา “วุ้น” ผู้ตาย ได้บอกกับครอบครัวว่า น้องชายของตนได้นำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร จำนวนกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งผิดปกติ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงินมาก่อน ไม่เคยเดือดร้อนเรื่องเงินเลย เนื่องจากสมบัติที่แม่ยกให้ก่อนเสียชีวิตก็จำนวนมาก ตนจึงไม่เข้าใจว่ามีปัญหาอะไรทำไมน้องชายถึงขัดสนเรื่องเงิน
ส่วนเงินที่ได้มา ทราบว่าวุ้นได้ขอยืมไปจำนวนหลักล้าน เพื่อไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัว ทำให้น้องชายมีการทวงถามเงินจำนวนนี้มาตลอด ซึ่งโดยปกติแล้วน้องชายเป็นคนใจกว้าง อีกทั้งส่วนตัวไม่เคยเป็นคนอาฆาตมาดร้าย เป็นคนใจดี แต่ลับหลังเรา เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไง ส่วนเรื่องปัญหาอื่น ๆ น้องชายก็ไม่ได้เคยมีปัญหาถึงขั้น โกรธแค้น หรือจะเอาชีวิต หรือแสดงพฤติกรรมอารมณ์ร้อนให้กับครอบครัวได้เห็นเลย
โดยครั้งสุดท้ายได้มีการพูดคุยกับน้องชายเมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการพูดคุยหลังจากที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว เป็นการพูดคุยกันประมาณ 30 กว่านาที ในช่วงระหว่างที่พูดคุยกันนั้น น้องชายมีอาการสับสนและพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ คือ พูดเรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่ ซึ่งในตอนนั้นตนไม่ทราบว่าน้องชายต้องการจะสื่อสารอะไร
ส่วนเรื่องที่น้องชายครอบครองอาวุธปืนทั้งหมด 3 กระบอก และมีกระสุนกว่า 100 นัดนั้น ที่ผ่านมาตนไม่ทราบรายละเอียดเลย
“อยากเป็นตัวแทนน้องชายเพื่อขอโทษครอบครัววุ้น เนื่องจากว่าที่ผ่านมาน้องชายกับวุ้นก็คบหากันมากกว่า 20 ปี เราก็เห็นว่าเป็นเหมือนคนในครอบครัว ไม่คิดว่าน้องชายจะทำแบบนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็อยากจะให้น้องชายได้รับโทษตามกฏหมาย และอยากให้ทางครอบครัว รวมไปถึงตัววุ้น อโหสิกรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” พี่ชายผู้ก่อเหตุ กล่าว
