“ไทยรักษาชาติ” จัดประชุมใหญ่ว่าที่ผู้สมัคร “ปรีชาพล” ชูเทคโนโลยีกระตุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่ “จาตุรนต์” ปลุก ต้านสืบทอดอำนาจ ซัด “คสช.” บริหารประเทศ 4 ปีล้มเหลว อัด “บิ๊กตู่” ไร้วุฒิภาวะ
วันที่ 13 ธ.ค. ที่ชั้น 4 ห้องเดอะ พอร์ทอล บอลรูม อาคารเดอะ พอร์ทอล ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) จัดประชุมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครจากทั่วประเทศ หัวข้อ “ทษช สู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง” โดยมีร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ คณะกรรมการบริหารพรรค พร้อมสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครเข้าร่วมประชุมหลายร้อยคน โดยได้พบอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาร่วมการประชุมด้วย
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวบนเวทีว่า พรรคไทยรักษาชาติไม่ยอมให้คนไทยต้องตกยุคจากภัยคุกคามจากภัยเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งทำให้หลายประเทศล้าหลัง แต่พรรคไทยรักษาชาติจะทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย และจะส่งเสริมสร้างประโยชน์ให้ประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรให้ลดต้นทุนนำขายไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะโลกทุนนิยมปลาใหญ่กินปลาเล็ก จึงต้องสร้างความเข้มแข็งให้ปลาเล็กมีพลังโดยว่ายคู่ไปกับปลาใหญ่ได้ นอกจากนี้จะกระจายรายได้ไปอยู่ท้องถิ่นจะเชื่อมเส้นเลือดฝอยในหมูบ้านไปสู้เส้นเลือดใหญ่ในประเทศ จะสร้างถนนดิจิทัลเพื่อเชื่อมถนนระดับตำบลหมูบ้านไปสู่นานาชาติ โดยเปิดโอกาสทำมาหากินให้ประชาชน ทั้งนี้ พรรคกล้าจะเปลี่ยนโดยนำความคิดคนรุ่นใหม่และคนรุ่นต่างๆที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จมาแล้ว มาเสนอเป็นตัวแทนประชาชนเพื่อเลือกเป็นมาเป็นรัฐบาล
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นพูดหลังปลดล็อกครั้งแรก หลังจากแถลงข่าวไป 2 ครั้งโดน 2 คดี จากนี้เมื่อปลดล็อกแล้วพรรคจะไปถามปัญหาประชาชนเพื่อมาจัดทำนโยบาย เพราะวันนี้รัฐบาลเผด็จการทำให้ประเทศเสียหาย โดยพรรคต้องหยุดการสืยทอดอำนาจ พรรคไทยรักษาชาติจะเป็นพรรคชี้ขาดให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง โดยจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นแระชาธิปไตย แต่จะไม่แก้ทันทีแต่จะให้สังคมได้เรียนรู้ เมื่อได้เรียนรู้แล้วจะเป็นพรรคการเมืองแรกกระโดดไปร่วมกับประชาชนเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะประเทศไทยย่ำอยู่กับที่จากการยื้อไปมาระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ มานาน ประเทศจึงจมอยู่กับระบบการปกครองที่รวบอำนาจ และไม่ฟังเสียงประชาชน เป็นระบบที่ต้องการสืบทอดอำนาจต่อไปอีก 10-20 ปี จากนี้จะทำให้ประเทศล้าหลังย้อนไปไม่ต่ำกว่า 40-50 ปี
“ประเทศไทยถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารเพียง 2 ประเทศทั่วโลกจากผู้นำไม่มีความรู้และประสบการณ์บริหารประเทศเลย เป็นผู้นำที่ไร้วุฒิภาวะอย่างที่สุด กลายเป็นผู้นำตะหวาดใส่ได้ตลอดเวลา ไม่สามารถตรวจสอบได้ ประชาชนไม่มีสิทธิเสรีภาพ”นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจของไทยเติบโตน้อยที่สุดในประเทศอาเซียน มาจากภัยที่บริหารประเทศผิดพลาด ผ่านมา 5 ปีมีการพูดเรื่องการปฏิรูปประเทศแต่ไม่มีใครชี้ได้ว่าประเทศไทยเกิดการปฏิรูปด้านไหนบ้างินอกจากนี้ ประเทศยังมีความเหลื่อมล้ำอันดับ 1 ของโลก และยังมีปัญหาคอรัปชั่นทุกระดับ โดย ม.หอการค้าคาดการณ์จะมีความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 2 แสนล้านในปี 2561 ขณะเดียวกันยังมีหนี้ครัวเรือน 12.34 ล้านล้านบาท ส่วนงบประมาณกระทรวงกลาโหมเพิ่งสูงขึ้น แต่อีกด้านคนกลับล้นโรงพยาบาล ถือเป็นการใช้นโยบายการคลังที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากโครงการของรัฐบาลต่างๆ เรียกว่าแจกเงินเจ้าสัวผ่านมือคนจน จึงเป็นการรวยกระจุกจนกระจาย ดังนั้นพรรคไทยรักษาชาติมีทางออก โดยแนวความคิดแก้ไขเศรษฐกิจที่จะต่างจากรัฐบาลเผด็จการ ดังนั้นวันที่ 24 ก.พ.2562 จะร่วมการหยุดสืบทอดอำนาจเพื่อสร้างรัฐบาลประชาธิปไตยมาแก้ปัญหาให้ประชาชน