“บิ๊กตู่” นำ “ครม.-ทหาร-ตำรวจ” รดน้ำขอพร “พล.อ.เปรม” บ้านสี่เสาฯ เนื่องในวันสงกรานต์ ประจำปี 61 พร้อมรายงานสถานการณ์บ้านเมือง-ความคืบหน้าการทำงาน ขณะที่ “ป๋าเปรม” ชื่นชมนายกฯเป็นตัวอย่าง มั่นใจนำพาประเทศเดินหน้า
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เปิดบ้านพักรับรองสี่เสาเทเวศร์ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) นำคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ,พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ,พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ,พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ,พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ,พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นั้นไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากลากิจ
โดยพลเอกเปรม กล่าวให้พรว่า ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีที่นำผู้บริหารประเทศ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ มาในวันที่สำคัญ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ดำรงความเป็นไทยในวันปีใหม่ของไทย เป็นสิ่งที่น่าชมเชยมาก ทำได้ดีมาก พร้อมให้ยึดการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ทั้งนี้ตนรู้สึกดีใจที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำที่ทำอะไรเป็นตัวอย่างแก่คนในชาติบ้านเมืองให้เห็นว่าการรักษาความเป็นไทยเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องยึดถือและทำเป็นตัวอย่าง ขณะเดียวกันต้องขอโทษที่ไม่สามารถให้ทุกคนรดน้ำได้ ทั้งที่อยากคุยด้วย และใจจริงตนก็ยังเป็นเพื่อนของทุกคนเสมอ เป็นเพื่อนนายกรัฐมนตรีมาหลายสิบปี ประกอบกับทุกคนก็มีงานเยอะ และตอนนี้พยายามดูข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถพาประเทศไปได้สำเร็จจะใช้เวลาสักเท่าไหร่ แต่ก็มั่นใจจะเป็นแรงขับที่ดีที่จะให้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามขออวยพรให้นายกรัฐมนตรีมีความสุขความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจทำงานให้ประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป และขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีที่จะช่วยเป็นเสาหลักของประเทศ
โดยพลเอกประยุทธ์ ระบุว่า นับเป็นวาระมงคลในโอกาสที่คนไทยจะสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ซึ่งในวันนี้มาด้วยกันในหลายฐานะ ทั้งในระดับรัฐบาล และเหล่าทัพ แต่ทุกคนยึดมั่นในหลักการเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างไม่เสื่อมคลาย และส่งต่อแนวคิดนี้ให้คนรุ่นต่อไป
ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมือง เปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งความขัดแย้ง ภัยที่อุบัติขึ้นใหม่ในสังคมโลก รวมไปถึงสงครามเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือ และสิ่งสำคัญต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งถือเป็นการสานต่อแนวคิดของพลเอกเปรมในเรื่องนี้
ขณะที่บ้านเมืองกำลังก้าวหน้าเป็นประชาธิปไตย แต่การเป็นประชาธิปไตย ต้องอยู่ภายใต้ธรรมาภิบาล ยึดหลักกฎหมาย รวมทั้งต้องจัดระเบียบสังคม อาจจะมีทั้งคนที่พอใจ และไม่พอใจ ซึ่งปัจจุบันยังมีเรื่องของสื่อโซเชียลที่มีอิทธิพลในสังคม ดังนั้นต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี เพราะการใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยหลายปัจจัย และที่สำคัญคนไทยต้องร่วมมือกันสร้างสังคมที่ดี ยกเว้นไม่ใช่คนไทย ทั้งนี้ยอมรับว่า เป็นห่วงสุขภาพของพลเอกเปรม และอยากให้แข็งแรงเพื่ออยู่กับทุกคนไปอีกนาน