“ยิ่งลักษณ์” ขอความเป็นธรรมศาล ให้สืบพยานคดีโครงการรับจำนำข้าวครบทุกปาก เหลือ 20ปาก
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรับฟังการไต่สวน คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตจนรัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท โดยการไต่สวนพยานจำเลย ในวันนี้จำนวน 3 ปาก ประกอบด้วย นายอดุลย์ ยุววิทยาพานิชย์ อดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการจีทูจี โดยจะสืบพยานเพื่อยืนยันว่าผลการสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีเป็นการซื้อขายจริงไม่ใช่จีทูจีเก๊อย่างที่กล่าวหา
ส่วนพยานอีกสองปากคือ น.ส. นิรัชฌา ไกยสวน บุตรสาวของชาวนาที่เสียชีวิตจากการผูกคอตายที่ จ.ร้อยเอ็ด จะมาชี้แจงยืนยันว่าบิดาไม่ได้มีปัญหาการรับเงินจากโครงการรับจำนำข้าว แต่มีปัญหาส่วนตัวและโรคประจำตัว และพยานสุดท้ายคือนายบุญช่วย หอมพญา บิดาของชาวนาที่เสียชีวิตจากการตายผูกคอตาย ที่ จ. นนทบุรี ที่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากปัญหาส่วนตัว
ทั้งนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาขอความเป็นธรรมต่อศาล ให้ได้สืบพยานในฝ่ายจำเลยครบทุกปาก ซึ่งยังมีพยานสำคัญอีกจำนวนมาก ที่ต้องเข้าไต่สวนต่อศาลอีกสองนัดที่เหลือนับจากนี้ ซึ่งล่าสุดทนายความไม่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอขยายเวลาสืบพยานเพิ่มเติมเพราะยังเหลือพยานอีก20ปาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาหรือไม่
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่าวันนี้ได้ยื่นหลักฐานใหม่เป็นคำร้องขอให้ศาลออกไปเผชิญสืบ โรงสีข้าวและคลังข้าวจังหวัดอ่างทอง ที่ล่าสุดพบว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงพานิชย์ได้เข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบความเสียหายและการทุจริต จึงถือเป็นหลักฐานใหม่ที่จะยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวของตนเองไม่ได้ทุจริตและเน่าเสียอย่างที่ถูกล่าวหา จึงเป็นหลักฐานใหม่ที่เพิ่งปรากฏขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้เคยร้องในประเด็นนี้ต่อคณะกรรมการป.ป.ช.แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยิบมาพิจารณา
ขณะที่บรรยากาศมีประชาชนกลุ่มคนเสื่อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ล่าสุด ศาลพิจารณาคำร้องฝ่ายจำเลยที่ขอให้ศาลเดินเผชิญสืบโรงสีข้าวและคลังข้าว เพื่อตรวจสอบให้พบความจริงว่า ข้าวเสียหรือไม่นั้น ศาลเห็นว่าข้าวเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่เสื่อมได้ตามกาลเวลา ขณะนี้ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปีเศษแล้ว เป็นปัญหาข้อเท็จจริง การเดินเผชิญสืบไม่จำเป็นแก่คดี จึงให้ยกคำขอของจำเลย และนัดไต่สวนพยานจำเลยครั้งต่อไปในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้