ซื้อตัวส.ส. ปิยบุตร ตั้งคำถามถาม 10 ส.ส. อนาคตใหม่ย้ายซบพรรคร่วมรัฐบาลอุดมการณ์อยู่ไหน หลังเปิดคลิปเสียงสนทนาการเสนอซื้อตัวให้ไปร่วมพรรคคนละ 23 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา กลุ่ม ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าว กรณีมีคลิปเสียงสนทนาการเสนอซื้อตัวให้ไปร่วมพรรคคนละ 23 ล้านบาท โดยคนที่ติดต่อมาได้ให้ ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ คือ “เบญจา แสงจันทร์” ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ รวบรวมคนไปร่วม เพื่อที่คนซึ่งเสนอมานั้นจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่ง และให้คนที่ย้ายไปด้วยนั้นได้อยู่ในทีมงานของตนเอง โดยเบญจากล่าวว่า ตนขอยืนยันกับสื่อมวลชนตรงนี้ว่า ไม่ว่าจะจ่ายกี่หมื่นล้านก็ซื้ออุดมการณ์ของเราไม่ได้
เรายืนยันจะเดินไปด้วยกัน จับมือกันอย่างเหนียวแน่น การเสนอซื้อตัวแบบนี้ ทำให้พวกเรารู้สึกไม่สบายใจ เรายืนยันว่า เราจะกลับไปยืนอยู่จุดเริ่มต้น วันที่เรามาสภาแห่งนี้ครั้งแรก สิ่งที่เราตั้งใจจะทำคืออะไร เราต้องการก้าวมาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ เราเป็น ส.ส. หน้าใหม่ ไม่เคยมีใครเป็น ส.ส. มาก่อน แต่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ บางคนอาจหมดศรัทธา ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการทำคือกู้ศรัทธา เรียกร้องระบบรัฐสภาที่มีศักดิ์ศรีกลับคืนมา
ด้าน “พิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์” ส.ส. บัญชีรายชื่อกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ก่อตั้งมาได้เพียงปีเศษ เราต้องการทำพรรคการเมืองที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงไปตรงมา เราพยายามสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคมวลชน ทำงานกับความคิดคน สร้างสรรค์นโยบายดีๆ ออกมา แต่สุดท้ายกลับโดนยุบ และสำหรับพฤติกรรม ดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. แบบนี้ แม้ว่าเราจะเป็น ส.ส.ใหม่ แต่ได้มาเจอการซื้อตัวแบบโจ๋งครึ่มอย่างนี้ ไม่ว่าจะในที่ประชุม โรงอาหาร ที่จอดรถ ทำกันทุกสถานที่ ทำเป็นเหมือนเรื่องปกติ รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ทำลายระบบพรรคการเมือง ทำลายระบบรัฐสภา ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อนักการเมือง เรา ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่คิดเสมอ เมื่อการเมืองเป็นเรื่องสกปรก การเมืองเป็นเรื่องไม่ดี เราจึงตั้งใจจะมาทำให้ดีขึ้น นี่คือสิ่งที่เราอยากสื่อถึงประชาชน และให้สังคมร่วมกันกดดันให้พฤติกรรม ดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. แบบนี้หมดไปจากการเมืองไทย
ทั้งนี้ ในการแถลงข่าว กลุ่ม ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้เปิดคลิปการสนทนาระหว่าง น.ส.เบญจา กับ ผู้ที่เสนอซื้อตัวมาให้กับสื่อมวลชนได้ฟัง โดยเป็นบทสนทนาการให้ชักชวนเพื่อน ส.ส. ไปร่วมทีมด้วย ค่าตัวคนละ 23 ล้านบาท
ทั้งนี้ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า เราทำงานการเมืองใหม่ คุณจะตีค่าเราเท่าไหร่ 20 กว่าล้านนี้พอหรือยัง อนาคตใหม่มีคนเลือกมา 6 ล้านกว่าคน ยืนยันว่าอุดมการณ์ซื้อขายไม่ได้ ฝากบอกคนคิดซื้อขายว่าพอได้แล้ว มีแค่นั้นทำงานแค่นั้น
หลังจากจบการแถลงข่าว ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจ กำลังจะเดินทางออกจากรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการย้ายไปอยู่พรรคอื่นของ ส.ส. และการซื้อตัวดังกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่า วันนี้มีรายชื่อ ส.ส. ว่าไปพรรคอยู่ภูมิใจไทย ตนอยากให้คนที่ไปทั้งหมดให้นึกถึงวันเริ่มต้นสร้างพรรคด้วยกัน คุณพูดว่ามีอุดมการณ์อย่างไร เชื่อมั่นอนาคตใหม่อย่างไร สมัครเพราะมีอุดมการณ์อย่างไร นอกจากนี้เมื่อได้เป็น ส.ส. แล้ว เราได้ลงสัตยาบรรณร่วมกัน ว่าจะต่อสู้ด้วยกันจนกว่าจะได้มาซึ่งแก้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ได้มาซึ่งการจัดการการสืบทอดอำนาจ เราได้ให้สัตยาบรรณไว้ ไม่นึกว่าพอยุบพรรคปุ๊บ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ลืมหมด
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อไปแล้ว ตนก็หวังว่าจะได้มีบทบาท เพราะที่ผ่านมาเราเปิดพื้นที่ให้ ส.ส. ได้แสดงบทบาท ดังนั้น ไม่แน่ใจว่าไปพรรคอื่นจะได้มีโอกาสบริหาร ได้อภิปรายหรือไม่ หรือไปเพียงแค่ยกมือเติมเต็มให้กับ ส.ส. ฝั่งรัฐบาล เป็นเพียงจำนวนนับให้พรรคได้รัฐมนตรีเพิ่มขึ้นในการต่อรองรัฐบาล ถามว่าเป็นอย่างนั้นท้ายที่สุด คุณค่า ส.ส. อยู่ตรงไหน หวังว่าคุณไปแล้วจะได้ดี และที่ลือว่าไปด้วยผลประโยชน์ไม่จริง หวังว่าไปด้วยอุดมการณ์ แต่ปัญหาไปด้วยอุดมการณ์อะไรที่ไปร่วมพรรคภูมิใจไทย
“เพิ่งเห็นว่าการเมืองไทยเป็นแบบนี้ ยามร่วมสุขกันมาก็เต็มที่ หัวหน้าพรรค คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผม แกนนำพรรค ช่วยกันรณรงค์หาเสียงเสียงเต็มที่ ที่ผ่านมา ผมเคยคุยกับผู้บริหารหลายพรรค ส.ส. ผู้หลักผู้ใหญ่พรรคอื่นเขาแซวพรรคเราว่ามีแต่ ส.ส. สามล้อถูกหวย ซึ่งผมยืนยันว่า พรรคเราเป็น ส.ส. ที่มีความรู้ความสามารถและแสดงบทบาทอย่างดี แต่ท้ายที่สุดวันนี้กลับ แตกไปอยู่พรรคอื่น ไม่รู้ว่า เขาพูดกันจะใช้ที่ย้ายไปใช้ 3 ปีแล้วจบแล้วจะเป็นอย่างไร ผมไม่รู้ว่าสถาการณ์หัวเลี้ยงหัวต่อ ไม่รู้ว่าเพื่อนที่ย้ายไปพรรคอื่นนั้นตัดสินใจอย่างไร ไม่รู้ว่าได้ประเมินถึงความไม่พอใจถึงความไม่พอใจถึงประชาชนข้างนอกบ้างไหม ไม่รู้ว่าได้ประเมินถึงเสียงของนิสิตนักศึกษา คนหนุ่มสาวที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ให้มาสู้กับรัฐบาลสืบทอดอำนาจ สู้เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ สู้เรื่องปฏิรูปกองทัพหรือไม่ แน่นอนตนห้ามไม่ได้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็ไม่ว่ากัน ขอให้โชคดี ให้ได้มีบทบาทในพรรคใหม่จริงๆ และขอให้คุณจะไม่กลายเป็น ส.ส. สามล้อถูกหวย อย่างที่พรรคอื่นเขานินทาให้ผมฟัง” ปิยบุตรกล่าว
ปิยบุตรกล่าวถึงกรณีคลิปเสียงที่มีการเสนอซื้อตัวนั้นมีมาอย่างโดยตลอดต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้าสภาวันแรก แต่ที่ตนสงสัยคือทำไมเรื่องนี้ไม่ปรากฏเป็นข่าว สำนักข่าวที่ทำเรื่องเจาะข่าวต้องมีข่าวเจาะเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้กลายเป็นผลักภาระให้พรรคที่ถูกดึง ส.ส. ไปต้องอธิบาย เรื่องแบบนี้มีมาตลอด แต่คงถึงคราวที่มีคำอธิบายได้ง่ายกว่าตอนอื่นคือหลังยุบพรรค กรณีที่มีการแถลงข่าวเบญจามีหลักฐานชัดเจน แต่ที่เคยคุยกันนั้นมีเยอะ ทั้งคลิปวีดีโอ คลิปเสียง แต่เรากังวลเรื่องความปลอดภัยของ ส.ส. อย่างที่หลายท่านทราบดีว่าประเทศนี้เถื่อน ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ ก็ระมัดระวังสวัสดิภาพ ส.ส. ตนต้องต้องขอบคุณความกล้าหาญของ ส.ส. เบญจา และหวังว่าจะได้รับความคุ้มครองปลอดภัยจากสังคม สื่อมวลชนต้องช่วยกันปกป้อง”
ปิยบุตรกล่าวอีกว่าการดูด ส.ส. ซื้อ ส.ส. พฤติกรรมแบบนี้ ถามว่านี่คือการปฏิรูปประเทศที่เราต้องการเหรอสำหรับ 5 ปีที่มีการยึดอำนาจมา เราต้องการพรรคการเมืองแบบนี้ เราต้องการรัฐสภาแบบนี้เหรอ พรรคอนาคตใหม่ที่ทำการเมืองอย่างโปร่ง พยายามทำการเมืองอย่างคุณมีคุณภาพ คุณกลับยุบพรรค แต่คุณกลับปล่อยให้มีพรรคต่างๆ ที่ซื้อ ส.ส. ดูด ส.ส. แลกเปลี่ยนผลประโยชน์อยู่ เรื่องนี้กลับตาลปัตร ซึ่งตนอยากเรียนตรงๆ ว่าอยากให้ฟังเสียงประชาชนนอกสภาบ้าง
