วันที่ 30 ธ.ค. 63 ทนายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ความหนาแน่นของการชุมนุมทั้งในแง่เนื้อหาและจำนวนคนของปีนี้คือช่วงกลางเดือนตุลาคม เหตุการณ์สลายการชุมนุมและกวาดจับแกนนำนักศึกษาคือชนวนที่ถูกจุดโดยรัฐ จากนั้นก็เกิดการชุมนุมออแกนิกและข้อเสนอที่มากกว่าการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
ทนายอานนท์ ตั้งเป้าหมายปีหน้า! พาผู้ลี้ภัยทางการเมืองกลับไทย
ทนายอานนท์ ชี้จุดแข็ง-จุดอ่อน ม็อบราษฎร วอนดูแลใจกัน เส้นทางยังอีกยาวไกล
การปล่อยตัวแกนนำเพื่อให้สถานการณ์การขยายตัวของการชุมนุมคลี่คลาย และเป็นการดาวน์อารมณ์ราษฎรลงถูกนำมาใช้ได้ถูกจังหวะเวลา นั่นคือโชคดีของรัฐที่ประเมินสถานการณ์ขาด
ปีหน้า เราจะถูกเล่นงานโดยคดีความอย่างหนักหน่วง รัฐจะผลักเราให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นพื้นที่อำนาจของรัฐ ขณะเดียวกันก็จะปรามคนที่จะลุกขึ้นมาสู้หน้าใหม่ๆให้กลัวต่อความยุ่งยากที่จะตามมา สุดท้ายจะเด็ดทีละคนด้วยคดีความ
ด้วยเหตุและปัจจัยข้างต้น
1.ข้อเสนอต่อสาธารณะจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องขยับเพดานการต่อสู้ขึ้นไปอีก ทั้งในระนาบของประเด็น และขยายฐานคนทำงานเชิงประเด็นให้แหลมคมขึ้น
2.คนที่โดนคดีความ ต้องใช้โอกาสนี้ตีแผ่ความอยุติธรรมและสวนกลับด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริงที่แหลมคมมากขึ้น และตรงต่อเป้าหมายมากขึ้น เปลี่ยนรับเป็นรุก และยืดการต่อสู้เพื่อรอจังหวะ
3.ส่วนคนที่ยังไม่เปิดหน้าหรือไฟยังไม่ส่องมากนักต้องขยายจำนวนให้เกิดการออแกนิก และสร้างขบวนการต่อสู้แบบหลวมๆ ไม่ต้องรวมศูนย์ แต่ต้องยึดมั่นในหลักการร่วม
4.ผู้สนับสนุนต้องเงียบและนิ่ง ไม่ให้รัฐสังเกตการเคลื่อนไหว และไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าฉาก เพราะปีหน้ารัฐต้องเด็ดท่อน้ำเลี้ยงและคนสนับสนุนทั้งหมดเพื่อตัดเสบียงการต่อสู้
- สิ่งที่ต้องระวังคือการเล่นนอกกฎหมายและความบ้าส่วนบุคคล
ปีนี้แค่โหมโรง ปีหน้าคือของจริง
