วันที่ 1 มีนาคม 2563 นาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 5 รัฐมนตรี จะได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีบริหารจัดการแบบพิเศษ แต่จำนวนมือที่รับรองในสภาก็ไปต่อไม่ได้ ถ้ากระแสสังคม เสียง และมือนอกสภา คะแนนเสียงจากประชาชน ไม่ไว้วางใจรัฐบาล สารพัดคำถามไม่ไว้วางใจที่ถูกนำมาอภิปรายในสภาทั้งหมด
“รัฐบาลตอบไม่ได้ ตอบไม่ครบ ตอบไม่ตรงคำถาม เน้นอ่านตามโพยที่ข้าราชการประจำเขียนฝากมาให้ กระแสสังคมไม่มีทางยอมรับได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลแน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ วิกฤตศรัทธาที่กระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาลอย่างน้อย 5 ด้าน ที่พิสูจน์ฝีมือรัฐบาลว่าไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้ คือ
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
- การแสดงพลังของนิสิต นักศึกษา ประชาชน คนรุ่นใหม่ ที่ขยายวงออกไปเป็นไฟลามทุ่ง
- วิกฤตการเมือง ที่ปล่อยให้มีการใช้สารพัดวิธี ในการดูด ส.ส.ย้ายพรรค เปลี่ยนข้าง ย้ายขั้ว แบบไร้ธรรมาภิบาล ฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนที่เลือกมา
- ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งออกพัง ท่องเที่ยวทรุด หนี้ครัวเรือนสูง กำลังซื้อหด ความเหลื่อมล้ำพุ่ง คนว่างงานสูง ตลาดหุ้นพัง สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ
- ปัญหาวิกฤตสภาวะแวดล้อม ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปัญหาภัยแล้ง
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เอาเวลาที่จะไปเฉลิมฉลองในโอกาสที่มือพวกเดียวกันเองในสภา ช่วยให้รอดชีวิตจากอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มาแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติด้านต่าง ๆ ให้ประเทศชาติ และประชาชนดีกว่า