วันที่ 14 ธ.ค. 63 พรรค ก้าวไกล โพสต์ถึงกรณีที่คอนเสิร์ต Big Mountain ครั้งที่ 11 ถูกสั่งระงับการแสดง โดยระบุว่า กลายเป็นคำถามร้อนๆ ระเบิดขึ้นในโลกออนไลน์ เมื่อมีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้ปิดสนามกอล์ฟ ดิโอเชียนเขาใหญ่ อ.ปากช่อง สถานที่จัดคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival 2020 โดยอาศัยอำนาจในมาตรา 22 มาตรา 35 (3) พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 2 ข้อ 7 (3) และข้อ 11 ของข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจากมีการร้องเรียนการแสดงคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ในวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ไม่จํากัดจํานวนผู้เข้าร่วมงาน ทําให้เกิดความแออัดของผู้เข้าชม รวมทั้งผู้เข้าร่วมงานไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย และตะโกนร่วมร้องเพลงตลอดเวลา
โซเชียลโวยลั่น! อย่าเล่นกับใจคน จี้ Sweet Mullet แจงปมแบกศพ โยงการเมืองหรือไม่
บก.ลายจุด เผยสาเหตุผ้าห่อศพ กลายเป็นกระแส สะท้อนภาพผู้ลี้ภัยถูกอุ้มหาย
นอกจากนี้ ผู้จัดการแสดงคอนเสิร์ตไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ที่เสนอต่อจังหวัด แม้ว่าคอนเสิร์ตจะเหลือการแสดงอีก 1 วัน แต่เป็นกรณีเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณสุข หรือกระทบต่อประโยชน์ต่อสาธารณะ
ศรีสุวรรณ จี้ตร.ต้องเด็ดขาดกับผู้จัด บิ๊กเมาเท่น ชี้คนไปร่วมงานต้องกักตัว 14 วัน
ต่อมา ได้มีควาพยายามขออุทธรณ์จากผู้จัดแต่ไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม แม้มีมติสั่งดังกล่าวจะออกมาแล้ว แต่คอนเสิร์ตยังดำเนินต่อไป โดยทางผู้จัดไม่ได้มีการแถลงยกเลิกจัดงานเพียงแต่สื่อสารเพิ่มเติมถึงความเป็นห่วงเรื่องมาตรการชมคอนเสิร์ตที่ปลอดภัยที่สุด และขอความร่วมมือห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปในพื้นที่ชมคอนเสิร์ตโดยเด็ดขาด กระทั่ง เวลาประมาณ 20.30 น. จึงมีคำสั่งให้ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย ในที่สุด เวลา 21.00 น. ยุทธนา บุญอ้อม หรือ ‘ป๋าเต็ด’ ผู้จัด จึงได้ออกมาขอโทษผ่านเฟบุ๊กส่วนตัวโดย ระบุว่า “ขอโทษที่ทำได้แค่นี้ครับ” พร้อมทั้งได้แชร์ลิงค์ของเพจที่ระบุว่าจะยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตในเวลา 22.00 น. พร้อมรายละเอียดของการขอคืนตั๋วต่างๆ
คำสั่งอันเคร่งครัดที่ตกมาถึงคอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ได้นำไปสู่ข้อกังขาที่ตามมาอีกครั้งโดยเฉพาะในออนไลน์ เนื่องจากในช่วงเวลาเดียวกันยังคงมีงานกิจกรรมอื่นและคนเสิร์ตที่จัดขึ้นได้ตามปกติ เช่น งานฤดูหนาวปากช่อง ซึ่งจะมีศิลปินมาแสดงทุกวันตั้งแต่ 13-24 ธันวาคม 2562 และยังไม่มีคำสั่งปิดแต่อย่างใดแม้จะจัดที่นครราชสีมาเช่นกัน นั่นจึงกลายเป็นกระแสเรียกร้องว่าให้ผู้ว่าฯมาตรวจสอบงานนี้ด้วย และหากไปดูในจังหวัดอื่น เช่น อุดรธานีซึ่งกำลังมีงานกาชาด กิจกรรมคอนเสิร์ตก็ยังคงเป็นไปคึกคักและแน่นขนัด
แม้ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ตที่มีศิลปินและผู้คนมากันอย่างคับคั่งเหมือนกัน แต่ความจริง คอนเสิร์ต Big Mountain Music Festival ปีนี้กลับมีข้อแตกต่างที่ชัดที่สุดจากเวทีอื่น นั่นคือ การเป็นเวทีแสดงออกทางการเมืองที่สอดรับไปกับการชุมนุมของ ‘ราษฎร’ มีการแสดงออกอย่างชัดเจนจากหลายกลุ่มศิลปิน ไม่ว่าจะเป็นการชูสามนิ้วหรือการแสดงสัญลักษณ์หลากรูปแบบ จนเสมือนคอนเสิร์ตของเหล่าวัยรุ่นได้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตทางการเมืองกลาย ขณะที่เวทีอื่นยังคงไม่มีนัยยะเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่า โควิด 19 ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อควบคุมสถานการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนถูกเรียกว่า ‘รัฐประหารโควิด’ เนื่องจากหลายนโยบายที่ออกมาไม่ได้สะท้อนไปยังการแก้ปัญหาทางสาธารณสุขอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการรวมศูนย์เพื่อกระชับอำนาจผ่านการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการควบคุมวงประชุมที่ควรจะมีสาธารณสุขนั่งหัวโต๊ะแต่กลับกลายเป็นฝ่ายความมั่นคงแทน นั่นจึงนำไปสู่การส่งสัญญาณผ่านการสื่อสารเพื่อสร้างความหวาดกลัวมาตลอด และทำให้ไม่สามารถสร้างสมดุลย์ระหว่างการประคองเศรษฐกิจไปพร้อมกับการควบคุมโรคได้
เมื่อสถานการณ์โควิดดูจะคลี่คลายลง ปมเศรษฐกิจจึงกลายเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามรีบสื่อสารใหม่เพื่อให้ดูผ่อนคลายขึ้นและดูเหมือนจะยินยอมให้มีการติดเชื้อได้บ้าง การสื่อสารใหม่ในระยะหลังจึงเป็นการสะท้อนความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขมากขึ้น หลังพบว่าแนวทางสื่อสารที่เน้นยึดติดกับการมี ‘เชื้อเป็น 0’ ก่อนหน้านี้ได้กำลังทำให้ภาคธุรกิจกำลังดิ่งลงเรื่อยๆโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและบริการ โดยสัญญาณที่ชัดที่สุดคือ แม้จะมีข่าวการติดเชื้อระลอกใหม่ในจังหวัดเชียงรายออกมา แต่กลายเป็น โฆษก ศบค. เองที่ต้องรีบออกมายืนยันว่า เชียงรายยังคงเที่ยวได้อย่างปลอดภัยด้วยการป้องกันที่ดี และหากไปเที่ยวก็ไม่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน หากเป็นก่อนหน้านี้ กรณีที่พบเคสหมายถึงการปิดล็อคดาวน์จังหวัดทันที เป็นต้น
นัยยะการกลับมาส่งสัญญาณเข้มงวดอีกครั้งต่อกรณี Big Mountain Music Festival ครั้งนี้ จึงเป็นจุดตัดสำคัญอีกครั้งต่อการดำเนินนโยบายโควิด และอาจกำลังสร้างความกังวลต่องานกิจกรรมอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตต่างๆซึ่งผูกโยงอย่างยิ่งกับภาคท่องเที่ยวและบริการ ขณะที่ช่วงปลายปีหรือตอนนี้ก็คือช่วงไฮซีชั่นสำคัญของธุรกิจเหล่านี้
กรณีที่เกิดขึ้นกับ Big Mountain Music Festival จึงไม่ใช่สัญญาณดีนัก ซึ่งไม่ใช่แค่ต่อทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณไม่ดีต่อเศรษฐกิจทั้งระบบที่หวังว่าจะฟื้นตัวได้ในปีหน้าอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก Taitosmith