วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวในการอภิปรายงบประมาณ ปี 64 วงเงิน 3.3 แสนล้านล้านบาท ว่า เท่าที่ฟัง ส.ส.ฝ่ายค้าน มีเจตนาชัดเจนคาดการณ์ไปข้างหน้าแล้ว จึงไม่สามารถรับหลักการงบประมาณฉบับนี้ได้ เพราะแม้แต่ ส.ส.รัฐบาลก็มีข้อเสนอแนะติติงทุกคน จึงเป็นเรื่องแปลกมากที่ฝ่ายค้านไม่ต้องขอแรงเลยเพราะสมาชิกทุกคนเห็นตรงกันว่า มีปัญหาจริง ๆ เหตุที่ตนจะไม่รับ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ให้เกียรติสภา ดูถูกสภาเป็นตรายาง ไม่สนใจปฏิทินงบประมาณ ทำให้ในชั้น กมธ. เหลือเวลาพิจารณาเพียง 70 วัน จาก 105 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ ส่งผลให้ กมธ. ต้องทำตัวเป็นเทวดา ต้องเป็นผู้หยั่งรู้ เพราะปีนี้มีหน่วยรับงบประมาณถึง 748 หน่วย 70 วันที่เหลือกมธ.ต้องพิจารณา วันละถึง 10 หน่วยรับงบ ถือเป็นการบีบบังคับเหมือนเราเป็นตรายาง
“ตนคิดว่าร่างที่เสนอมาไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ จัดงบแบบรัฐราชการ มีแต่รายจ่ายประจำ งบลงทุนมีไม่มาก และไม่สอดคล้องกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เรากำลังเจอปัญหาอยู่ มหาประยุทธภัยที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการปิดบ้านปิดเมือง จนมีผลกระทบทำให้เกิดมหาวิกฤตเศรษฐกิจ แน่นอนในอีก 3 เดือนข้างหน้า และจะอยู่ต่อไปอีก 2 ปี เมื่อเจอวิกฤต แต่การจัดเก็บภาษีตามที่คาดการณ์ไว้ 2.67 ล้านล้านบาทนั้น ตนคิดว่า ยังไงก็ไม่เข้าเป้า จึงอยากถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า จะทำอย่างไร เพราะกู้เงินเพิ่มไม่ได้แล้ว กู้ติดกันมา ตั้งแต่ปี 2557 ต่อกันมา 5 ปี ปีหน้าถ้ากูอีก ล้มละลายทางการเงินแน่นอน” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า อยากฝากให้ กมธ. เข้าไปหาวิธีนำเงินนอกงบประมาณที่มีสูงถึง 4 ล้านล้านบาท มาใช้เกิดประโยชน์ และช่วยปรับลดรายจ่ายประจำที่ไม่แท้ เช่น ค่าเช่ารถ และงบลงทุนที่ไม่เหมาะสมออกไป และขอฝากไปถึง ครม. ให้เตรียมแปรญัตติ ในชั้น กมธ. เพื่อนำงบที่ไม่จำเป็น รวมถึงเงินงบนอกงบประมาณ เป็นมาชดเชยกับการเก็บภาษีที่ไม่เข้าเป้า ยืนยันว่า แม้จะไม่เห็นด้วยกับหลักการ หากมีการแก้ไข ในชั้น กมธ. ฝ่ายค้านยินดีให้ผ่าน แม้ความหวังริบหรี่ก็ตาม