นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อเขียนเรื่อง “มวยล้ม รอบสอง” โดยได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน โดยระบุว่า
เดือนหน้า สภามีมวยเอก “อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล” รายชื่อมีถึง 10 เสนาบดีที่จะถูกถลุง
ฝ่ายค้านสาธยายข้อด้อยของฝั่งรัฐบาลกว้างขวางครอบคลุมอย่างกับมหาสมุทร ทั้งบริหารไร้ประสิทธิภาพ ไร้ภาวะผู้นำ ทำงานผิดพลาด ปล่อยปละให้โควิดแพร่ระบาด เศรษฐกิจดิ่งเหว ทุจริตเฟื่องฟูเบ่งบาน แสวงหาผลประโยชน์มิควรได้ มีบ่อนการพนันกระจายเต็มเมือง ละเมิดสิทธิมนุษยชน และอีกสารพัดบานเบอะ
แต่ดูท่าจะซ้ำรอยเก่าเที่ยวที่แล้ว ที่กลายเป็น “มวยล้มกลางสภา” ทะเลาะแย่งเวลากับพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน แย่งซีนกันเอง จนปล่อยให้ระฆังดังหมดเวลา อดอภิปรายบุคคลสำคัญอย่าง “บิ๊กป้อม” ไปเสียก่อนหน้าตาเฉย เพราะไปซุกรายชื่อเอาไว้ลำดับสุดท้ายอย่างมีเลศนัย
เที่ยวนี้เล่นยกระดับ ข่มขวัญไล่เรียงของเดิม ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี แถมไปยันรัฐมนตรีช่วยฯ รายชื่อสิริรวม 10 คน มากกว่าเดิมเข้าไปเสียอีก
เวลาชกยังได้เท่าเก่ารอบที่แล้ว 26 ชั่วโมง แต่รายชื่อผู้ถูกอภิปรายมากกว่าเดิม!
ดูแล้วมันทะแม่งๆ
แทนที่จะเน้นๆ เอาเนื้อๆ ดันหว่านแห ถึงเวลาจะกลายเป็น “น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง”
ไม่ได้ปรามาสกันล่วงหน้า แต่ควรเอากันเรื่องหนักๆ ที่เป็นทุกข์ของชาวบ้านในช่วงโควิด ทุกวันนี้ก็อ่วมอรทัยอยู่แล้ว ไม่ต้องไปไล่เรียงเรื่องอื่นเสียมากมายจนเข้าอีหรอบเดิม ซ้ำไปมาจนหมดเวลาคาเวที ให้คนเขาค่อนขอดหาว่าเป็น “มวยล้มแจกกล้วย”
เรื่องหลักของฝ่ายค้านเก่าอย่างผมที่อยากนำเสนอ คือ รัฐบาลเยียวยาช่วงโควิดที่ประชาชนเดือดร้อน แต่ดันคัดเลือกจัดสรรให้เฉพาะกลุ่ม เหมือนโปรยทานโปรดสัตว์ ใครมือยาวสาวได้สาวเอา
ทุกนโยบายของรัฐที่ออกมา ไม่เอื้อให้ประชาชนเข้าถึงทุกคน กู้มาแจกแท้ๆ แต่ต้องแย่งกันถึงจะได้ เงื่อนไขซับซ้อนซ่อนเงื่อน เวลาจำกัด ทั้งที่ความเดือดร้อนกระจัดกระจาย ต้องแก่งแย่งชิงโชค ไม่ว่านโยบายเราชนะล่าสุดถอดด้าม เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง บัตรคนจน ใครมีปัญญาหาสมาร์ทโฟน ต้องเข้าแอพ แหกตาตื่นมาจ้องหน้าจอ กดจองตามเวลาที่เปิด กดช้าแป๊บเดียวอดหมดสิทธิ์เยียวยา
เกษตรกรพื้นที่ห่างไกลสัญญาณอย่าได้หวังแจ้งเกิดกับนโยบายของรัฐ ส่วนพวกมนุษย์เงินเดือนที่ส่งประกันสังคมทุกเดือนแท้ๆ แต่ดันได้เยียวยาเหมือนขอทาน โยนเศษตังค์มาให้ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะขั้นตอนยุ่งยากเหมือนไปขอกินฟรี
แจกก็ไม่ทั่วถึง แถมยังให้แบบคูปองต้องเพิ่มเงินสดเลียนแบบนายทุนห้าง ทั้งๆ ที่ทุกวันนี้ เงินจะแดกแทบไม่มี ตกงานบ้าง ลดเงินเดือนบ้าง ปลดคนงานเป็นว่าเล่น ยอดขายตกกราวรูด เปิดร้านจำกัดเวลา เพราะต้องทำเพื่อส่วนรวม
แต่รัฐบาลทำงานแบบขอไปที ที่สำคัญเกรงใจนายทุนใหญ่เป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกอย่างนโยบายของรัฐ ผลประโยชน์ห่วงโซ่สุดท้ายเข้ากระเป๋านายทุนเสมอ
ส่วนพวกร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ พอได้เดือนสองเดือน หมดเวลาโปรโมชั่น กลับมานั่งหน้าเหี่ยวเหมือนเดิม
แต่ก่อนวางแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ล่อไปถึง 20 ปีโน่น ตอนนี้เอาแค่ ยุทธศาสตร์ 2 เดือนยังไม่มี แค่ผ่านไปได้เดือนต่อเดือนก็บุญโขแล้ว
โควิดมาเป็นปี เศรษฐกิจพินาศป่นปี้ ประชาชนตกงาน อดอยาก ออกนโยบายสารพัดแต่ได้ในเวลาจำกัด ไปไม่ทั่วถึง
นโยบายนำเสนอรัฐบาลเร่งด่วน คือ เอาแค่บัตรประชาชนไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ได้เงินสดทุกเดือนจนกว่าโควิดจะหมด ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน ออกชื่อให้สวยหรู แต่ดูปวดหัว
เพราะหากวัคซีนมาอย่างที่ว่าเดือนหน้า แจกอย่างเก่งเดือนสองเดือนก็จบ แบบนี้ไม่ต้องไปง้อฝ่ายค้าน ให้ทำมาชกเป็นมวยล้มรอบสอง
ประชาชนเขารู้ทันนะครับท่าน ว่าแจกกล้วยล่ออยู่
ชูวิทย์ ซัด เลิกทะเลาะเรื่องวัคซีนโควิด กลุ้ม พม่าได้ก่อนไทยเฉย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อัด รัฐกลัวโควิดจนเศรษฐกิจพัง บกพร่องเรื่อง บ่อน แรงงานเถื่อน
เก่ง การุณ เตรียมเปิดแผลเน่า! ศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล-รัฐมนตรี