สมศักดิ์ ยืนยันไม่ได้ปกปิดข้อมูล โควิดเรือนจำ แต่ที่ไม่เปิดเผยเนื่องจากตัวเลขยังไม่นิ่ง คาดสาเหตุทิศทางการแพร่ระบาดมาจากผู้ต้องขัง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้อง แถลงข่าวกรณีพบผู้ต้องขังติดเชื้อ โควิด-19 ในเรือนจำเป็นจำนวนมาก ระบุว่า กรณีดังกล่าวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยกำชับตนเอง ให้ดูแลเอาใจใส่พื้นที่ในเรือนจำมาก่อนหน้านี้เพราะหากพบคนติดเชื้อจะลุกลามได้รวดเร็วเหมือนที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งตนเองได้พยายามดำเนินการลดความแออัดเพิ่มพื้นที่ในเรือนจำจากเดิมที่มีที่พักในเรือนนอนของนักโทษไม่ถึง 1 ตารางเมตร แต่ขณะนี้สามารถปรับให้อยู่ในเกณฑ์ประมาณใกล้เคียง 1.2 ตารางเมตรแล้ว ซึ่งการแก้ปัญหามี 3 แนวทางคือ
1.การขอพระราชทานอภัยโทษ
2.การพักโทษโดยให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษสวมใส่กำไล EM ในกรณีพิเศษ ซึ่งขณะนี้มียอดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- การปรับแก้กฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เช่นการปรับลดโทษ โดยหากสามารถทำได้เชื่อว่าจะสามารถลดจำนวนผู้ต้องขังในเรือนจำได้กว่า 50,000 คน โดยกรณีนี้อยู่ระหว่างการนำเข้าหารือในสภาแต่เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 จึงทำให้ยังมีสส.บางพรรคไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ส่วนกรณีที่พบผู้ติดเชื้อนั้นยืนยันว่าการตรวจเช็ครวมถึงทราบผลสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยอมรับว่ามีข้อบกพร่องในเรื่องของการดูแลผู้ต้องขังเพราะหากยึดหลักมาตรฐานสากล ผู้คุม 1 คน จะดูแลผู้ต้องขัง 6 คน ส่วนของบ้านเราผู้คุม 1 คนดูแลผู้ต้องขัง 33 คน รวมถึงการจัดตั้งรพ.สนาม ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองคิดว่าเพียงพอแต่ในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าสถานการณ์อยู่ในภาวะวิกฤติ โดยหลังจากนี้จะมีการเร่งจัดหายาฟาวิพิราเวียร์สำหรับดูแลผู้ป่วย ซึ่งในส่วนของผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงทางแพทย์แผนไทยก็ได้แนะนำให้ใช้ฟ้าทลายโจรในการรักษาควบคู่ไปด้วย
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีการปกปิดข้อมูลตัวเลขของยอดผู้ติดเชื้อในเรือนจำและมีการประสานการทำงานร่วมกันกับศบค. มาโดยตลอดแต่สาเหตุที่ไม่เปิดเผยตัวเลขก่อนหน้านี้เพราะข้อมูลยังไม่นิ่งการตรวจยังไม่แล้วเสร็จซึ่งรายงานยอดผู้ติดเชื้อที่ออกไปวานนี้เนื่องจากการตรวจทำได้ครบถ้วน 100% แล้ว อย่างไรก็ตามจากการตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์อยู่เพียง 6 คนเท่านั้น จึงคาดการณ์ว่าสาเหตุของการติดเชื้อในเรือนจำทิศทางน่าจะมาจากฝั่ง ของผู้ต้องขัง
