หมอวรงค์ หรือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่ถูกอุ้มหายบริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์ ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา โดยตั้งคำถามถึงผู้ที่ออกมาเรียกร้องให้นายวันเฉลิมว่าเป็นห่วงเขาจริงๆ หรือหวังโหนกระแสเพื่อปลุกระดมทางการเมือง
นพ.วรงค์ ยังระบุด้วยว่า นายวันเฉลิมเป็นผู้ต้องหาคดีคอมพิวเตอร์ ลักลอบปลูกกัญชาในเขมร และมีความขัดแย้งจากการทำธุรกิจกัญชาด้วย โดยภายในโพสต์ดังกล่าวของหมอวรงค์ระบุว่า
“ห่วงกันจริงๆหรือหวังโหนเพื่อปลุกระดม พยายามติดตามชีวิต ประวัติ และการหายตัวของวันเฉลิม เพราะไม่รู้จักเขา ทำให้ทราบว่าเขาลี้ภัยการเมืองไปอยู่กัมพูชามานาน และเป็นผู้ต้องหาคดีคอมพิวเตอร์
แต่สับสนข้อมูลธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากมีรายงานผ่านสื่อว่า ลักลอบปลูกกัญชาในเขมร รวมทั้งอาจมีความขัดแย้งธุรกิจนี้
อย่างไรก็ตามการหายตัวไปของเขา เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลไทยต้องช่วยติดตาม
แต่อย่าลืมว่า เหตุทั้งหมดเกิดในแผ่นดินกัมพูชา ไม่ใช่แผ่นดินไทย
กลุ่มที่ออกมาเรียกร้อง ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย ที่เป็นห่วงเป็นใยจริงๆ
แต่การแสดงออกและขานรับกันกับคนหน้าตาคุ้นๆ มันสื่อนัยยะว่า ต้องการเอามาปลุกระดมทางการเมืองมากกว่า ที่เป็นห่วงจริงๆ
โดยเฉพาะนักการเมืองบางคนถึงขนาด เอาไปเทียบกับจอร์จฟลอยด์
โดยเฉพาะการที่จอร์จฟลอยด์พูดคำว่า” I can’t breathe” และมีการมาเล่าต่อว่า ได้ยินประโยคสุดท้ายของวันเฉลิม “ผมหายใจไม่ออก”
ยิ่งดูยิ่งจงใจเพื่อนำมาเป็นประเด็นทางการเมืองมากกว่า โดยเฉพาะคำพูด”ผมหายใจไม่ออก”
จอร์จฟลอยด์เขาใช้เวลานานถึง 8 นาทีเศษ พร้อมเสียงครวญ ความเจ็บปวดอื่นแทรกเข้ามา แต่ของวันเฉลิม แค่ประโยคเดียว มันจึงไม่เนียน
ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า คนกลุ่มเดิม ไม่ใช่ห่วงใยกันจริงๆ แต่ต้องการสร้างกระแส เพื่อปลุกระดมทางการเมืองเท่านั้น”