บัตรทอง จากกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ตรวจพบข้อหลักฐานสงสัยใน 64 คลินิกว่ามีการเบิกจ่ายที่กระทำไม่ถูกต้อง เช่น การสวมสิทธิการรับบริการทั้งที่ไม่มีการคัดกรองเบาหวานความดัน ซึ่งจะกระทบต่อ สปสช. ที่จะไม่ได้ข้อมูลเพื่อวางแผนบริการจัดการตามข้อเท็จจริง และกระทบต่องบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน จึงจำเป็นต้องดำเนินการยกเลิกสัญญาการเป็นหน่วยบริการของคลินิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นจะทำให้ประชาชนประมาณ 8 แสนคนที่ขึ้นทะเบียนสิทธิในคลินิกเหล่านี้ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป
สปสช. สอบทุจริตงบ บัตรทอง รอบ 2 พบเสียหายกว่า 34 ล้าน!
ต่อกรณีนี้ หมอเอก เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.จังหวัดเชียงราย เขต 1 พรรคก้าวไกล ได้เรียกร้องให้ สปสช. รีบแก้ปัญหา อย่าปล่อยให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต้องดำเนินการเอง ต้องมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างรอบคอบและรัดกุม และเสนอแนะว่าในระยะยาวต้องรื้อโครงสร้างการให้บริการทั้งระบบ
“สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของประชาชนเลย ในระยะสั้น สปสช.ควรต้องขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลใหม่ เพื่อให้ตัวเลือกกับประชาชน รวมทั้งต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องไปหาสถานพยาบาลด้วยตัวเอง และทางหน่วยงานอย่าง สปสช. ต้องส่งต่อประวัติผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ต่อเนื่อง มีอาการเรื้อรัง ให้ได้รับบริการโดยเร็ว ในการนี้ทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล ในพื้นที่กรุงเทพมหานครทุกคนยินดีเป็นผู้ประสานช่วยเหลือกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้”
นายแพทย์เอกภพ ยังมีเสนอแนะเพื่อการแก้ไขปัญหาในระยะยาว โดยระบุว่า จำเป็นต้องแก้ไขระบบให้บริการทั้งหมด เพราะในปัจจุบันระบบของ สปสช. ทำให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถเข้าถึงได้เพียง 30% เท่านั้น แตกต่างจากในพื้นที่จังหวัดอื่นที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ 80% ซึ่งประเด็นนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะเป็นเรื่องคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนและเป็นเรื่องรัฐสวัสดิการ ที่ทางพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงพร้อมร่วมผลักดันให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ ปัญหาของระบบ สปสช.ในกรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันเป็นระบบที่ ‘มือใครยาว สาวได้สาวเอา’ เพราะมีโครงสร้างคือ อำนาจส่วนกลางมาจาก สปสช. ส่งต่อไปที่ สปสช.เขต 13 รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นแต่ละโรงพยาบาลที่หลากหลายในระนาบก็จะเข้ามารับการจัดสรรทรัพยากรจากจุดเดียวนี้ก่อให้เกิดระบบที่ใครมีอำนาจต่อรองหรือมีเสียงที่ดังกว่า ก็สามารถได้รับการจัดสรรทรัพยากรที่มากกว่า
ทุจริต! บัตรทอง 64 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่น กระทบปชช.เกือบล้านราย
“สิ่งที่ทางเราเสนอคือ ต้องการให้มีการรื้อโครงสร้างการให้บริการใหม่ทั้งระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยที่จะแก้ไขปัญหาระบบที่มีลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอา เป็นระบบที่เสมอภาค ทั่วถึงและเท่าเทียม โดยจะทำให้ประชาชนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เข้าถึงระบบสวัสดิการของรัฐอย่างมีทางเลือกและเข้าถึงได้มากขึ้น ข้อเสนอของผมคือ การยกระดับศูนย์สุขภาพด้วยการใช้คลินิกชุมชนเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในพื้นที่และการมีโรงพยาบาลประจำเขต หากเป็นกรณีการรักษาที่ยากขึ้นหรือเกินศักยภาพก็สามารถส่งต่อไปที่โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลประจำคณะแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน เพื่อรักษาดูแลประชาชนต่อได้”
ข่าวดี! ผู้ใช้สิทธิ บัตรทอง สามารถย้ายโรงพยาบาลออนไลน์ ได้ด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์เอกภพ กล่าวว่า โครงสร้างนี้จะไม่เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเลย หากกรุงเทพมหานครยังมีลักษณะการทำงานที่แข็งตัวกึ่งราชการ และรัฐบาลยังไม่เปิดให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีการเลือกตั้งเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถทำงานตอบสนองต่อประชาชนในพื้นที่ของพวกเขาได้ ซึ่งในเรื่องนี้ หากพรรคก้าวไกลมีโอกาสบริหารกรุงเทพมหานคร จะต้องดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างการบริหารจัดการใหม่ เพื่อทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความคล่องตัวและทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง