Home » ข่าว » การเมือง » พายุ ซัด พิธา หาเสียงทางอ้อม จากเหตุการณ์ สงครามอิสราเอล

พายุ ซัด พิธา หาเสียงทางอ้อม จากเหตุการณ์ สงครามอิสราเอล

พายุ อดีตผู้สมัคร สส. ซัด พิธา อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลั่น ไม่ใช่เวลาที่จะมาหาเสียงทางอ้อม จากสถานการณ์ สงครามอิสราเอล

เมื่อค่ำคืนของวันที่ (7 ต.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความถึงสงครามครั้งใหญ่ระหว่าง อิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ว่า ผมพึ่งวางสายโทรศัพท์จากการพูดคุยกับท่านทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และ พี่น้องแรงงานคนไทยในอิสราเอลจากการประสานของปีกแรงงานพรรคก้าวไกล ได้ทราบมาว่าสถานการณ์มีความรุนแรงต่อเนื่อง และ ได้รับคำขอร้องว่า ครอบครัวของแรงงานที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่สามารถติดต่อญาติที่อิสราเอลได้ และกำลังตกอยู่ในความกังวลอย่างมาก สุดท้ายขอเป็นกำลังใจและสนับสนุนรํฐบาลและข้าราชการไทยในการคลี่คลายวิกฤตในครั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องชาวไทยในอิสราเอลครับ

หากท่านมีญาติไปทำงานที่อิสราเอล และบัดนี้ยังติดต่อไม่ได้ ท่านสามารถระบุชื่อของบุคคล เมืองที่พำนัก มาที่ email : [email protected] เพื่อรวบรวมเป็น database ประสานงานกับ สถานทูตอิสราเอล และ/หรือส่งมอบต่อกระทรวงต่างประเทศต่อไปได้

ต่อมา นายพายุ เนื่องจำนงค์ ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านช่องทาง X (ทวิตเตอร์) กล่าวถึงโพสต์ของนายพิธาว่า “ขออนุญาตออกความเห็นในฐานะที่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน: ผมเชื่อว่าท่านทูตนั้นรับสายคุณพิธาเพราะเป็นมารยาทของนักการทูต เนื่องด้วยตามความเป็นจริงแล้วท่านทูตไม่มีเหตุที่จะต้องโทรหาอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองที่ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน ที่มีความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ใน อิสราเอล ณ ตอนนี้” ซึ่งน่าจะเป็นท่านรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคุณ @drparnpreeb หรือทาง รมช. @jsangmanee เสียมากกว่าที่ทางท่านทูตจะต้องหารือด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเช็คข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงการขออนุญาตนำเครื่องบินของทาง ทอ. ไปลงจอดเพื่อรับคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสั่งการของท่านนายกฯ @Thavisin ก่อนหน้านี้ รวมไปถึงการติดต่อแรงงานไทยที่นั่น ก็ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานและท่าน รมว. แรงงาน ในการประสานงานควบคู่กันไปกับทางท่านนายกฯและรัฐบาลนี้ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของ อดีต กมธ. แรงงานที่จะมาเป็นคนประสานงานแทนกระทรวงที่รับผิดชอบแรงงานไทยครับ

ส่วนการที่ได้แจ้งว่า “พร้อมสนับสนุนรัฐบาล” ในการคลี่คลายวิกฤตนี้.. ผมไม่แน่ใจว่าคุณพิธาหมายถึง 1) รัฐบาลไทย หรือ 2) รัฐบาลอิสราเอล กันแน่? และไม่แน่ใจว่าจะสนับสนุนทางไหน? ในเมื่อไม่ได้มีตำแหน่ง หรือ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยที่จะมีอำนาจไปช่วยอะไรได้ที่จะทำให้สถานการณ์ “คลี่คลายลง” นอกเสียจากว่า.. คุณพิธาสามารถเจรจาการยุติการสู้รบระหว่างสองคู่กรณีนี้ได้ ? สุดท้ายแล้วนี่คือช่วงวิกฤตที่ ณ เวลานี้มีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และยังจะมีอีกต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงปัญญาหลักในตอนนี้ ก็คือคนไทยที่ไปติดอยู่ที่นั่นที่รัฐบาลไทย และครอบครัวของคนเหล่านั้นยังไม่ทราบถึงชะตากรรมของพวกเขา แต่ก็เป็น priority ของรัฐบาลที่กำลังบริหารจัดการอยู่ ดังนั้น มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเลยที่จะมาหาเสียงทางอ้อมจากสถานการณ์นี้ครับ ควรปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปเถอะครับ

หมายเหตุ : การเข้ามาแทรกแซง อาจให้การดำเนินการล่าช้า ไม่รวมศูนย์กลางที่รับผิดชอบที่เดียว ในเมื่อรัฐบาลได้ประกาศว่าได้ทำการเตรียม Hot Line เพื่อการติดต่อทางโทรศัพท์ได้ตลอด 24 ชม. ไว้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นให้ใครรับเรื่องแทนแล้วต้องส่งไปส่งมาหลายทอดทำให้ข้อมูลตกหล่นได้ ผมไม่เห็นด้วยครับ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งเตือนคนไทย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และ ฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งเตือนคนไทยในพื้นที่ดังกล่าว ปฏิบัติดังนี้

เข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน (หากไม่ทันให้หมอบราบลงกับพื้น)
ไม่ถ่ายรูป
ไม่วิ่งไปที่โล่ง
ผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย
ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด