17 ตค. 63 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 6/2563 เรื่อง กำหนดสถานที่ควบคุมเพิ่มเติม
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 2
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 นายกรัฐมนตรีได้มีประกาศ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11
วรรคสอง แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ข้อ 1 ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563 และ ค าสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 36/2563 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไข ถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตามข้อ 2 ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ
ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง มีหน้าที่และอำนาจในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นั้น
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง จึงก าหนดสถานที่ควบคุมเพิ่มเติม ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ดังนี้
ข้อ 1 กรณีที่มีการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิด สถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับ การกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ส่งตัวไปควบคุมที่ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1 ค่ายพนัสบดีศรีอุทัย ตำบลเกาะจันทร์ อ าเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
ข้อ 2 ในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อกำหนดนี้ ให้ใช้มาตรการตาม ความจำเป็นและเหมาะสม โดยระมัดระวังมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน เกินสมควร ให้หัวหน้าผู้ควบคุมสถานที่มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาในการควบคุม การเยี่ยม ได้ตามที่เห็นสมควร โดยให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖2
พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
ราชกิจจานุเบกษา เผย ไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศ 8,564,656 ล้านบาท
ราชกิจจานุเบกษา รัฐบาล ประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ในกรุงเทพฯ ห้ามชุมนุมมั่วสุม 5 คนขึ้นไป