วานนี้ (28 ก.พ.63) เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำพิพากษาของศาลฎีกา เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โจทก์ นายทักษิณ หรือ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร จำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีแทรกแซงทีพีไอ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คำพิพากษาของศาลฎีกา เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ [คดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. 4/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ. 6/2562 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โจทก์ นายทักษิณ หรือ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร จำเลย] ความว่า โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคําพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ลงวันที่ 29 เดือน สิงหาคม พุทธศักราช 2561 องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ รับวันที่ 11 เดือน ธันวาคม พุทธศักราช 2561
ทั้งนี้ คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องจำเลย ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคําพิพากษา ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2562 องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายืนยกฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีต นายกฯ พ้นผิดอาญา ม.157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีให้กระทรวงการคลังเข้าแทรกแซงฟื้นฟูกิจการ “ทีพีไอ” ผลตัดสินคดีถือเป็นที่สิ้นสุดยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยคำพิพากษาวินิจฉัยอุทธรณ์นี้เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 137 ตอนที่ 16 ก วันที่ 28 ก.พ.2563 ดังกล่าว
คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค.61 ยกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อายุ 70 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยกล่าวหาว่าเมื่อปี 2546 นายทักษิณขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ เสนอให้กระทรวงการคลัง โดยมี ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ จำเลยร่วมกับ ร.อ.สุชาติยินยอมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผน รวมทั้งเป็นผู้เสนอชื่อ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นประธานคณะผู้บริหารแผน และนายทนง พิทยะ เป็นผู้บริหารแผน