วันนี้ (24 ม.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในกรอบระยะเวลา 105 วันเป็นเรื่องหนึ่ง แต่กรณีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีเสียบบัตรแทนกัน อาจจะทำให้มีปัญหา และอาจจะต้องตกไป สาระสำคัญของคำร้องทั้ง 2 ฉบับ เกี่ยวกับเรื่องของการออกเสียงที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และทั้ง 2 คำร้องไม่ได้มีข้อความใดในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 โดยศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาตามคำร้องที่ยื่นไป
“ผมเห็นว่าไม่น่าจะทำให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ต้องตกไปอย่างแน่นอน เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรกับประเทศ เพราะเมื่อปี 2557 ผมเคยยื่นให้ตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้วและไม่ได้ทำให้งบประมาณต้องตกไป ครั้งนั้นศาลใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพียง 10 วัน ซึ่งตามกรอบสามารถพิจารณาได้ไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงเชื่อว่า การพิจารณานี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาไม่น่าจะเกิน 15 วัน ซึ่งจะไม่มีผลอะไร ผมมั่นใจว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน” นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า กรณีการเสียบบัตรแทนกันนี้ เป็นเพียงคนส่วนน้อย และต้องให้ความเป็นธรรมกับเสียงส่วนใหญ่ที่ด้วย การกดบัตรแทนกัน แม้จะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีเสียงเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงมติได้ แต่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 คนส่วนใหญ่ได้พิจารณาร่วมกัน หากจะวินิจฉัยให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ต้องตกไป ถือว่าไม่เป็นธรรมกับส.ส.ส่วนใหญ่ที่ร่วมกันพิจารณา