ยินดีปรีดา ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล เผยข่าวดี ครม.ไฟเขียว เสนอร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เตรียมเข้าสู่รัฐสภา
เรียกว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก หลังจากที่ กฎหมายสมรสเท่าเทียม นั้นได้ถูกยื่นเข้าสู่รัฐสภา เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 โดยมี นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เสนอ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในชื่อ ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่มีถ้อยคำระบุว่า อนุญาตการหมั้นและการสมรสเฉพาะ ‘ชายและหญิง’ ให้เปลี่ยนเป็นอนุญาตให้ ‘บุคคลทั้งสอง สามารถหมั้นและจดทะเบียนสมรสเป็นคู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมาย
ได้รับสิทธิ หน้าที่ และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับคู่สมรสชายหญิงทั่วไป และเปลี่ยนคำว่า ‘สามีภริยา” ใน ป.พ.พ.ให้เป็น ‘คู่สมรส’ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้เปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ในรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 ในตอนนั้นสร้างประวัติศาสตร์ต่อรัฐสภา เนื่องจากมีประชาชนร่วมเเสดงความคิดเห็นกว่า 54,447 คน มากที่สุดตั้งแต่มีการเปิดรับฟังความเห็นของประชาชน จนกระทั่งในวาระแรกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2565 ร่าง ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตและร่างพ.ร.บ. นั้น ผ่าน ครม. เป็นครั้งแรก
ครม.ไฟเขียว
ล่าสุด วานนี้ 21 พฤศจิกายน 2566 ทางด้าน ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาเผยข่าวดีว่า ครม.ไฟเขียว เสนอร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม เป็นที่เรียบร้อย โดย นายพริษฐ์ นั้นกล่าวว่า
ผมและพรรคก้าวไกลเราเห็นตรงกันว่า “สิทธิสมรส” เป็นสิทธิพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงได้รับอย่างถ้วนหน้า ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ว่ารัฐเคารพความรักของทุกเพศอย่างเสมอภาค แต่ยังเป็นการเปิดประตูไปสู่สิทธิทางกฎหมายอีกหลายประการที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสถานะทางเศรษฐกิจของคู่รักโดยตรง (เช่น สิทธิรับมรดก สิทธิกู้ร่วม สิทธิรักษาพยาบาล สิทธิลดหย่อนภาษี)
ตอนนี้ ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ที่เสนอโดย สส. พรรคก้าวไกล ถูกบรรจุในวาระการประชุมสภาฯแล้ว เมื่อมีร่างของ ครม. ที่มีหลักการเดียวกันเข้ามาประกบ ทั้งสองฉบับจะถูกพิจารณาร่วมกัน (คาดว่าไม่นานหลังสภาฯเปิดวันที่ 12 ธ.ค.) โดยผมเชื่อว่าทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจะพร้อมร่วมมือกันผลักดันให้กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯได้โดยเร็ว เพื่อให้คู่รักทุกเพศแต่งงานกันได้
