สภาฯเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
วันที่ 14 มีนาคม 2567 นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมายและโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า ตามที่ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้เร่งรัดให้มีการผลักดันกฎหมายเพื่อพัฒนามาตรการด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง. ได้ยกร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 รวมทั้งเสนอแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ รวมทั้งเสนอร่างพระราชบัญญัติ ดังกล่าว ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา นั้น
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ .) พ.ศ… ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ รวม 2 ฉบับ ได้แก่ กฎกระทรวงการดำเนินการกับทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐาน พ.ศ. … และกฏกระทรวงการยื่นคำร้องขอดำเนินการกับทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการ พ.ศ. … ตามที่สำนักงาน ปปง. เสนอ และคณะรัฐมนตรีจะได้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้คณะกรรมการ ประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ร่วมชี้แจงร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 1 ณ อาคารรัฐสภา เขตตุสิต กรุงเทพมหานคร โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยกับหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าว ด้วยคะแนน 416 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง จากผู้เข้าร่วมการประชุม ทั้งหมด 418 คน และได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่ง จำนวน 31 คน เพื่อพิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัตติดังกล่าว มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. กำหนดให้สำนักงาน ปปง. เป็นผู้พิจารณานุญาตให้บุคคลที่ถูกำหนดสามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการ มาใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าที่อยู่อาศัยค่ารักษาพยาบาลฯ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
2. กำหนดให้ผู้เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ของบุคคลที่ถูกกำหนด สามารถยื่นคำร้องต่อสำนักงาน ปปง.เพื่อขอรับชำระหนี้จากเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกระงับการดำเนินการ หรือขอชำระหนี้ให้กับบุคคลที่ถูกกำหนดได้
3. กำหนดให้สำนักงานที่ดิน ได้รับยกเว้นไม่ต้องกำหนดนโยบายในการประเมินความเสี่ยงหรือแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันมิให้มีการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายหรือการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
4. กำหนดให้สำนักงาน ปปง. มีอำนาจหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อนำมาใช้ในการกำหนดหรือเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด หรือการยึด อายัดหรือริบทรัพย์สิน โดยมีอำนาจสอบถามหรือเรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรื่อส่งเอกสารต่าง ๆ มาให้เพื่อประกอบการพิจารณา รวมถึงร้องขอข้อมูลที่อยู่ในความครอบครอง หรือควบคุมดูแลของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐได้
5. กำหนดห้ามบุคคลทำธุรกรรมหรือช่วยเหลือทางการเงินกับบุคคลที่ถูกกำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อตัดช่องทางการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนบุคคลที่ถูกำหนดในการนำเงินหรือทรัพย์สินไปใช้ในการกระทำความผิด
6. กำหนดเพิ่มเติมความผิดในฐานต่าง ๆ เช่น ฝ่าฝืนไม่กำหนดนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติหรือมาตรการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย หรือการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ฝ่าฝืนไม่มาให้ถ้อยคำ ไม่ส่งคำชี้แจง หรือไม่ส่งบัญชี เอกสาร หรือหลักฐาน และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบความผิดฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และความผิดฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
