พร้อมพงศ์ ติงพวกคัดค้าน แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ลั่น ลุงตู่ อยู่มา 9 ปี ใช้งบเยอะหนี้บาน กลับเงียบสนิท กลัวประเทศจะเจริญหรือไง
วันที่ 10 ตุลาคม 2566 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังคงเป็นประเด็นดราม่า เมื่อนักวิชาการออกมาชี้ว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลเสียมากว่าได้ ล่าสุด ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นข้างต้นว่า “เหรียญมีสองด้าน” ฟังนักวิชาการ นักการเมืองที่ค้านมาแล้ว ลองฟังนักวิชาการที่สนับสนุน ให้รัฐบาลทำนโยบายแจกเงินดิจิทัล 560,000 ล้าน ใส่มือประชาชนให้เหตุผล น่ารับฟังว่า เพื่อทำหน้าที่ เป็นเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ในทุกพื้นที่ พร้อมกัน ไม่ผ่านคนกลาง ดีกว่าการทำโครงการเงินกู้ที่ผ่านมา เป็นเศรษฐศาสตร์แห่งคูปอง เพราะคนต้องใช้ใน 6 เดือน ไม่มีใครเก็บเอาไว้ เงินจะหมุนหลายรอบ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว อย่างรวดเร็ว เป็นการจ่ายเงิน เพื่อยกฐานะเศรษฐกิจ ยกรายได้ประชาชน ที่ยากลำบากอยู่ให้สูงขึ้น และเป็นการ วางฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ให้กับประเทศ การให้เงินสด คนเก็บไว้ได้ ไม่ใช้ ไม่เกิดผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจซื้อสิ่งของที่ไม่เป็นเช่น อบายมุขได้ เงินดิจิทัล กำหนดการใช้ กำหนดพื้นที่ ที่สำคัญ ลงทุกพื้นที่พร้อมกันทั่วประเทศ เศรษฐกิจจะดี จีดีพีจะโตแน่นอน ผมว่าให้ประชาชนเจ้าของประเทศ ตัดสิน ว่าสำเร็จหรือล้มเหลวต่อโครงการรัฐบาล จากผลการเลือกตั้งครั้งหน้าดีกว่า การยกเลิกโครงการดีไหมครับ เฮ้อ! รัฐบาลลุงตู่อยู่ 9 ปี ใช้งบเยอะ หนี้บาน อดีตผู้ว่าฯธปท. กับนักวิชาการกลุ่มนี้ กลับเงียบสนิท?

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า “ยุคนายกฯยิ่งลักษณ์ คัดค้านรถไฟฟ้าความเร็วสูงยื่น ศาล รธน. จนไม่ได้ทำ รอบนี้พวกต้านเพื่อไทยมามุขเดิม จะยื่นค้าน แจกเงินดิจิทัล ต่อ ศาล รธน. อีก อยู่มา 9 ปี เงียบสนิท ประชาชนหนี้ท่วมหัวไม่สน ถามจริงกลัวประชาชนจะได้ประโยชน์ กลัวประเทศจะเจริญหรือไง” เศรษฐกิจไทย ยังเติบโตต่ำ ประชาชนเดือดร้อนทั่วหน้า จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้พ้นโคม่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ประชาชน เป็นเครื่องมือทางเศรษฐศาตร์ เป็นความหวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ให้กลับมา ยังมีพวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ คอยเตะตัดขารัฐบาล เพื่อไทย ติชมไม่ว่า เสนอทางเลือกที่ดีกว่าก็ไม่มี นี่จะร้องศาล ให้ล้มโครงการ เกินไปไหม? คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ?
- ทัพ สว. มีมติไม่ส่งตัว อุปกิต ไปดำเนินคดี ตามหมายเรียกของตำรวจ
- เอาอีก! ศรีสุวรรณ ร้องสอบ ‘ก้าวไกล’ ขับ ‘หมออ๋อง’ ถึงขั้นยุบพรรค
- หมออ๋อง แถลงร่วมพรรคเป็นธรรม เผย! เคาะ 10 เดือน 10 ไม่ได้ถือฤกษ์
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรณ์ จาติกวณิช ได้ออกมากล่าวถึงการแจกเงินดิจิทัล ว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่คิดมาไม่ละเอียด หวังผลทางการเมืองมากกว่าการพัฒนา และเป็นแนวนโยบายที่อันตรายต่ออนาคตเศรษฐกิจของเราอย่างมาก เพื่อไทย ยังสามารถปรับแนวคิด และเบนทรัพยากรไปสู่การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน และการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อช่วยภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปในการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในด้านเทคโนโลยี ด้านสังคมสูงอายุ และด้านพลังงานหมุนเวียน หรือยังไม่ต้องรีบกู้เงินก้อนนี้ก็ได้ เก็บกระสุนไว้ก่อน ไว้จำเป็นจริงๆค่อยว่ากัน

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวความคืบหน้า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต มั่นใจว่าภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้จะแจงแผนการดำเนินงานอย่างชัดเจน ยืนยันทำแน่นอน เพื่อจุดชนวนการจับจ่ายในระบบเศรษฐกิจและวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์และรับฟังข้อเสนอแนะทั้งหมด เพื่อสรุปแนวทางต่อไป
1. ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์และความชัดเจนทุกอย่าง ทั้งขั้นตอนการใช้ กรอบระยะเวลา กลุ่มเป้าหมาย และแหล่งงบประมาณซึ่งจะอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง ในวันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม จะมีการประชุุมนัดแรกของคณะอนุกรรมการ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาต่อไป
2. รายละเอียดความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการทั้งหมด จะเปิดเผยให้ทราบภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้แน่นอน
3. สำหรับข้อเสนอจากหลายฝ่าย จะนำเข้ามาหารือด้วย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ยังคงยืนยันทำโครงการนี้แน่นอน เพราะนโยบายนี้จะเป็นการจุดชนวนให้เกิดการจับจ่ายในระบบเศรษฐกิจ สร้างโอกาส เกิดการจ้างงาน การลงทุนสร้างอาชีพ และรัฐบาลจะได้รับเงินคืนมาในรูปแบบของภาษี และวางรากฐานสู่เศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป
4. ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การเติมเงินครั้งนี้ไม่เหมือนกับในอดีต เรามีเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในเชิงบวกมากกว่าการกระจายงบประมาณแบบเดิม และเงินในครั้งนี้มีจำนวนมากต่อครอบครัว จึงไม่ได้แค่กระตุ้นการบริโภค แต่จะส่งเสริมการลงทุนขนาดเล็ก เกิดการสร้างอาชีพใหม่ ลดความเหลื่อมล้ำลง
5. นายเผ่าภูมิ ระบุอีกว่า เรามองไปถึงการวางโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการสร้าง Super App ของภาครัฐ และนอกจากการเติมเงินดิจิทัล เรายังมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมมารองรับ ตั้งแต่การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมใหม่ๆ อีกเรื่องคือความแตกต่างกันระหว่างการเติบโตแบบมีเสถียรภาพกับตามศักยภาพ ที่ผ่านมาเราโตแบบมีเสถียรภาพ แต่โตต่ำ ไม่เพียงพอ แนวคิดใหม่นี้คือให้โตไปทั้งคู่ทั้งศักยภาพและเสถียรภาพ เพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงพอชดเชยรายจ่ายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
6. นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า หลักเกณฑ์และรายละเอียดของโครงการบางส่วน มีการปรับเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งนี้ขอให้รอความชัดเจนก่อน แม้จะมีการปรับเปลี่ยนแต่ก็จะยึดตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY