พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ชี้แจงในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ภายหลังรับฟังการอภิปรายของนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยพล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าได้ฟังส.ส.ได้พูดจาเสียดสี ดูถูก สติปัญญาและเหยียดหยาม แต่ตนไม่ได้ไปโกรธเคืองอะไร ส่วนการลงทุนในโครงการด้านคมนาคมนั้นเป็นแผนงาน เป็นแนวคิด ยังไม่ได้เกิดขึ้น เพราะการจะลงมือทำต้องมีการศึกษารายละเอียดอีกครั้ง ส่วนใดที่เป็นชุมชนเดิม ก็ต้องทำด้วย และต้องทำส่วนใหม่ขึ้นมาบ้าง
ตนคงไม่ฉลาดน้อย ดังนั้นอย่าดูถูกเหยียดหยามตนมากนัก การลงทุนภาครัฐหากลงทุนเองต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เราก็ลงทุนแบบรัฐร่วมเอกชน มีการประมูล เซ็นสัญญาทำอย่างโปร่งใสถูกกฎหมาย ก็ลดการลงทุนของภาครัฐไปได้ เราจะสร้างถนนด้วยงบประมาณรัฐเองแล้วเมื่อไรเราจะได้ หลายโครงการก็ทำสำเร็จมาแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้นั้น รัฐบาลยืนยันว่าต้องดูแลประชาชนต่อไป ตนฟังส.ส.หลายคนพูดถึงแต่เรื่องความก้าวหน้า อนาคต และการลงทุน แล้วก็กลับมาพูดว่ารัฐบาลต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมันดูย้อนแย้งกัน ตนขอถามว่าถ้าเราต้องทำทุกอย่างตามที่ทุกคนต้องการ แล้วประเทศเราจะเอาเงินมาจากที่ไหน จึงอยากให้ส.ส.ทุกคนช่วยเสนอแนะแนวทางที่จะทำให้รัฐบาลมีรายได้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำถึงการจัดสรรงบประมาณว่า เน้นความถูกต้อง โปร่งใส คำนึงถึงภาระและความเหมาะสม ซึ่งงบประมาณแบ่งออกเป็นหลายส่วน ทั้งงบกลางของส่วนราชการ งบบูรณาการ
ส่วนการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยืนยันว่ายึดหลักเหตุผลความจำเป็น ดำเนินการด้วยความโปร่งใส รวมทั้งพัฒนาเส้นทางคมนาคม ทั้งเพิ่มถนนสายใหม่และแก้ไขถนนเส้นเก่าที่มีปัญหา ก็ทยอยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพราะไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี ขอยืนยันว่างบประมาณที่อนุมัติยึดตามพันธกิจของหน่วยงานเป็นสำคัญ