วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 นาย สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับตำรวจระยองที่จับกุมตัวชายชูป้ายไล่นายกฯ ที่จังหวัดระยอง ว่า เป็นสิทธิที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย ไม่ใช่มาชูป้ายที่มีคำหยาบคายเช่นนี้ และหากประชาชนที่มาชูป้ายเดือดร้อนจริงก็ควรจะมีข้อร้องเรียนมายื่นกับนายกฯ ได้ หรือไม่สะดวกสามารถมายื่นหนังสือผ่านตนเองได้ โดยยืนยันว่าข้อร้องเรียนต่าง ๆ ได้มีการรายงานให้นายกฯ รับทราบทุกเรื่องอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ เป็นการแสดงถึงความจริงใจ และตั้งใจที่จะเข้าไปพบกับประชาชนโดยตรง เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และหามาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป ถือเป็นประโยชน์ต่อคนในจังหวัดระยอง แต่กลับมีคนส่วนน้อยที่อยากจะทำให้บรรยากาศเสีย และตั้งข้อสังเกตว่าการออกมาชูป้ายเป็นความเดือดร้อนจริงหรือเป็นพวกป่วนเมือง เพื่อหวังผลทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกันแน่
นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า นายจิรายุ ก็ต้องรับฟังให้รอบด้านด้วย และควรตรวจสอบด้วยว่าการออกมาชูป้ายแบบนี้มีเจตนาอะไร อยากเรียกร้องความเดือดร้อนจริง หรือเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าพรรคฝ่ายค้านก็น่าจะคิดได้ และขอให้แยกแยะว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาให้บ้านเมือง ในขณะที่นายกฯ ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายในแนวทางรวมไทย สร้างชาติ แต่คนที่มาถือป้าย ก็คือคนกลุ่มเดิม ๆ ที่เคลื่อนไหวตลอดมาโดยไม่สนใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เคยยึดมั่นในกฎหมายบ้านเมือง หวังเพียงต้องการดิสเครดิตรัฐบาล ทำลายความน่าเชื่อถือ คนประเภทนี้ ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยกเกิดความวุ่นวาย
“ตนอยากให้ นายจิรายุ และพรรคเพื่อไทย อย่าได้ให้ท้ายหรือส่งเสริมกลุ่มคนเหล่านี้ เดี๋ยวพรรคเพื่อไทยจะเสียหายไปด้วย เพราะประชาชนทราบดีว่า เขาหวังผลการเมืองมากกว่าที่จะเห็นอกเห็นใจชาวระยอง เหมือนที่ท่านนายกฯ ขอโทษอย่างลูกผู้ชายเดินทางไปให้กำลังใจชาวระยองอย่างจริงใจ เพื่อบอกกล่าวว่า นายกฯ ไม่ทอดทิ้งพี่น้องชาวระยองและคนไทยทุกคน” นายสุภรณ์ กล่าว