มาตรการผ่อนปรน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติของสายตรวจร่วมในการตรวจสถานบริการ หรือจัดกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายตามมาตรการของรัฐบาล ว่า จากการตรวจสอบของสายตรวจร่วม สำหรับสถานที่ได้มีการผ่อนปรนให้เปิดได้ ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์, ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดย่อม, ร้านตัดผม/ร้านเสริมสวย, สนามกอล์ฟ/สนามซ้อม, สนามกีฬา, สวนสาธารณะ, ร้านดูแล/รักษาสัตว์ กว่า 9,400 แห่ง ทั่วประเทศ พบว่า ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 จำนวนกว่า 350 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและให้คำแนะนำกว่า 2,600 แห่ง
“เบื้องต้นหากผู้ประกอบการ ร้านค้า สถานบริการ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด หลังผ่อนคลายมาตรการให้กิจกรรมและกิจการบางอย่างเปิดให้บริการได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย ทหาร ฝ่ายปกครอง และสาธารณสุข ซึ่งเป็นชุดสายตรวจร่วมปฏิบัติ ในการตรวจสถานที่ที่ได้รับการผ่อนปรน จะใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนและให้ดำเนินการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การรักษาความสะอาด การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ และหากพบว่ายังมีการฝ่าฝืน ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอีก จะเสนอผู้มีอำนาจสั่งปิดสถานที่ที่ฝ่าฝืนนั้น” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ขอความร่วมมือประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติ เข้มงวด ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง