ราเมศ รัตนะเชวง ชี้ไม่ควรกดดันศาลรัฐธรรมนูญ ปม ยุบพรรคอนาคตใหม่ แนะควรรอฟังผลคำวินิจฉัย สอนส.ส.มีเวลา 60 วันหาสังกัดพรรคใหม่ เชื่อไม่กระทบการทำหน้าที่ในสภา
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการล่ารายชื่อเพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการกดดันการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคดีดังกล่าวถือได้ว่าอยู่ในระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีใครทราบได้ว่าผลคดีจะออกมาเช่นไรทุกคนควรรอฟังผลคำวินิจฉัยคือทางออกที่ดีที่สุด
นายราเมศ กล่าวว่า หากสร้างบรรทัดฐานโดยการล่ารายชื่อเพื่อกดดันให้ศาลรัฐธรรมนูญทำตามความประสงค์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งทั้งๆที่ควรต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริงในคดีก็จะเกิดความเสียหายต่อกระบวนการได้ ส่วนที่บอกว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่เปิดให้มีการไต่สวนในประเด็นนี้จะเห็นได้ว่ายังมีช่องทางอยู่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบการไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถยื่นพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเมื่อ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้
นายราเมศ กล่าวว่า ประเด็นที่มีความกังวลว่าหากมีการยุบพรรคอนาคตใหม่ อาจจะมีผลกระทบต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่สามารถทำหน้าที่ได้หรือไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่นั้น เห็นว่ามีการบิดเบือนข้อกฎหมายเพราะหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริงสถานะความเป็น ส.ส. ยังคงมีอยู่เพียงแต่จะต้องหาพรรคการเมืองอื่นสังกัดภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายควรรอผลคำวินิจฉัย ไม่ควรกระทำการในลักษณะข่มขู่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ