เรือดำน้ำ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ที่ประชุมกมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2564 ได้มีการพิจารณารายงานการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการคณะต่างๆ โดยตลอดการประชุมมีกรรมาธิการจำนวนหนึ่งจากพรรคร่วมรัฐบาลได้มีความพยายาม ขอให้ที่ประชุมพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียนป็นลำดับท้ายๆ
ยุทธพงศ์ ลุยตามคิดปมจัดซื้อ เรือดำน้ำ หลังกมธ.เสียงข้างมากสั่งปิดประชุม
ซึ่งคณะอนุครุภัณฑ์นี้นั้นคือคณะอนุกรรมาธิการที่มีกรณีที่ประชุมมีมติ 5:4 เสียง เห็นชอบให้กองทัพเรือจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 วงเงิน 22,500 บาท ทั้งนี้การที่ให้มีการพิจารณาเป็นลำดับท้ายใน กมธ.งบประมาณชุดใหญ่นั้น กรรมาธิการจากพรรครัฐบาลได้ให้เหตุผลว่าควรพิจารณาอนุกรรมาธิการคณะอื่นที่ไม่มีรายการอุทธรณ์ก่อน ทั้งๆ ที่ตามลำดับการพิจาณาเริ่มแรกเดิมทีจะมีการพิจารณาอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ เป็นลำดับที่ 2 แต่ด้วยเงื่อนไขที่ว่าบางอนุกรรมาธิการยังทำรายงานไม่เรียบร้อยและมีเรื่องที่ทางหน่วยรับงบประมาณต่างๆ ได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ไม่ตัดงบประมาณ
ส่งผลให้ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคือ นายวราเทพ รัตนากร โดยการชงเรื่องจากกรรมาธิการงบประมาณจากพรรคร่วมรัฐบาลทำการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการจังหวัด/กลุ่มจังหวัดฯ เป็นลำดับแรก และพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่นฯ เป็นลำดับถัดมา ซึ่งในลำดับที่สามเป็นการพิจาณาของคณะอนุกรรมาธิการฝึกอบรมฯ แต่เมื่อพิจารณามาถึงอนุฝึกอบรมฯ นั้น ได้มีการแจ้งว่าอนุกรรมาธิการมีการพิจารณาส่วนของสำนักงานประกันสังคม
ซึ่งทางสำนักงบประมาณและกรรมาธิการจำนวนหนึ่งได้อภิปรายว่าจะผิดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 144 จึงได้มีการอภิปรายกันเป็นวงกว้างและกลัวจะผิดมาตราดังกล่าว จนนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคพลเมืองไทย กมธ.งบประมาณสัดส่วนคณะรัฐมนตรี ได้ถามประธานในที่ประชุมว่าวันนี้จะมีการเลิกประชุมเร็วหรือไม่จากที่กำหนดไว้ว่าจะประชุมเสร็จกันในเวลา 21.00 น.
ซึ่งหากจะมีการประชุมกันต่อ ตนขอออกจากที่ประชุมเนื่องจากกลัวความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ต่อมานายวราเทพ รัตนากร ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอให้มีการพักการประชุม 10 นาที เพื่อให้มีการไปพูดคุยตกลงกันก่อนว่าจะเป็นไปในแนวทางใด
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและกรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงกรณีงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 วงเงิน 22,500 บาท ว่า กมธ.ชุดใหญ่ คงต้องเลื่อนการพิจารณาไป 2-3 วัน
เมื่อมาถึงตรงนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า เหตุใดจึงรู้ก่อนล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯ ยังไม่ได้มีมติว่าจะพิจารณาเมื่อใด?
หลังจากที่มีการพักการประชุมเสร็จสิ้น และเมื่อกลับมาประชุมต่อ ก็ยังเป็นการพิจารณารายงานการประชุมของอนุกรรมาธิการฝึกอบรมฯ ต่อ จนกระทั่งช่วงเวลา 20.00 น. เศษ ได้มีกรรมาธิการเสนอให้มีการปิดประชุมทั้งๆ ที่เดิมทีกำหนดว่าจะเลิกประชุมกันในเวลา 21.00 น. และยังได้มีการหารือเรื่องการพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมาธิการที่เหลืออีกครั้งในวันอื่น
เยาวชนแอบ ชู 3 นิ้ว ยิ้มร่าหลังนายกฯ สุดท้ายโดนวิจารณ์ยับ
โดยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอว่าให้มีการประชุมอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม โดยอ้างว่าเพื่อจะได้มีเวลาไปดูประชาชนช่วงวิกฤตในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ แต่ก็มีกรรมาธิการจากพรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยและอภิปรายเห็นแย้งว่าให้มีการพิจารณาต่อในวันนี้จนถึงเวลา 21.00 น. ตามที่กำหนดไว้และมาประชุมต่อในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นคือวันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.
แต่ในช่วงท้ายการประชุมนายวราเทพ รัตนากร ผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ใช้อำนาจประธานการประชุมกำหนดให้วันพฤหัสสับดีที่ 27 ส.ค. เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป เป็นวาระการประชุมให้หน่วยรับงบประมาณ 8 หน่วยงานเข้ามาชี้แจง และกล่าวว่าการประชุมจะเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ ทั้งนี้ในส่วนของการพิจาณาอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีการพิจารณาเมื่อใด แต่มีแนวโน้มว่าจะลากยาวไปพิจารณากันในวันที่ 31 ส.ค.
พุทธิพงษ์ ยัน ปิดกั้นเนื้อหาสื่อโซเชียล ไม่เกี่ยวข้องกับชุมนุมการเมือง
ซึ่งสอดคล้องกับข่าวที่มีการเผยแพร่อย่างแพร่หลายในสื่อมวลชนหลายสำนักซึ่งเป็นเวลาก่อนหน้าที่ที่ประชุมจะมีมติหรือกำหนดวันว่า”การจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท จากประเทศจีน ของกองทัพเรือ ออกไปเป็นวันที่ 31 ส.ค. 2563”
เราพร้อม แต่ใครไม่พร้อมโหวต??? ถึงช่างพยายามกันทุกวิถีทางแต่หัววันเพื่อเลื่อนออกไปให้ได้ในที่สุด