ทักษิณวิดีโอคอล — จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับผู้บริหารและผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2564 ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่นั้น
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ในวันนี้ (19 ต.ค.2564) ว่า กรณีดังกล่าวว่า ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่องคือ เรื่องแรก การที่นายทักษิณวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.และผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย อาจเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” และ “ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ
ทักษิณ ยันไม่เคยดีลกับใครเพื่อกลับไทย ลั่น! ไม่เห็นด้วยกับ ม็อบ7สิงหา ชุมนุมหน้าพระบรมมหาราชวัง
ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” หากฝ่าฝืนย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ม.92(3) ของกฎหมายดังกล่าว อาจเป็นเหตุให้ กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นได้
เรื่องที่สอง เป็นเรื่องของการจัดเลี้ยงที่มีผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงจำนวนมาก โดยมีการเสิร์ฟอาหารหวานคาวและที่สำคัญมีการเสิร์ฟไวน์หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ฉบับที่ 34 ที่ออกตามความใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 ประกอบ ม.34(6) ของพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ด้วย ซึ่งผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” แต่กลับปรากฎว่าได้กระทำเสียเองซึ่งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะทำการไต่สวน วินิจฉัย และเสนออัยการฟ้องต่อศาลเพื่อลงโทษได้
ทักษิณ ชี้ 15ปีรัฐประหาร 19ก.ย.49 นำประเทศถอยหลังทำคนไทยเสียโอกาสต่อเนื่อง
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. และ กกต. ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ที่ ป.ป.ช. นนทบุรี และเวลา 11.00 น. ณ กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ในวันพุธที่ 20 ต.ค. เวลา 10.00 น.นี้
