เทพไท เปิด 7 เหตุผล ประชาธิปัตย์คว้าชัยเหนือ พลังประชารัฐในศึก เลือกตั้งซ่อม

เลือกตั้งซ่อม — เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกรณีผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพร เขต 1 และสงขลา เขต 6 ในหัวข้อ บทเรียนที่เจ็บปวดของ พปชร. หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์สามารถเอาชนะพรรคพลังประชารัฐไปได้ทั้ง 2 เขต โดยระบุว่า

“จากประชาชน คนชุมพรและสงขลา

ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จังหวัดชุมพร และเขต 6 จังหวัดสงขลา ปรากฎว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถชนะเลือกตั้งซ่อมได้ทั้ง 2 เขต ทำให้มีการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งในหลายมุมมอง แต่ส่วนตัวคิดว่า เหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์ สามารถเอาชนะพรรคพลังประชารัฐได้ทั้ง 2 เขต น่าจะมาจากเหตุผล 7 ประการ คือ

1.พรรคประชาธิปัตย์ได้สรุปบทเรียนในการเลือกซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเรื่องจุดอ่อนจุดแข็ง ที่ทำให้ต้องพ่ายแพ้ต่อพรรคพลังประชารัฐ มาปรับใช้กับการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้

2.พรรคประชาธิปัตย์ มีการเตรียมพร้อม ปักหลักสู้มาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว ว่าพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผู้สมัครลงแข่งอย่างแน่นอน จึงมีการตั้งรับ และประกาศสู้ทุกรูปแบบ ชนิดตาต่อตา ฟันต่อฟัน

3.ปรากฎการณ์จากคำปราศรัยบนเวทีหาเสียงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ให้เลือกคนรวย คนมีความพร้อมทางการเงิน ทำให้เกิดการขยายผล จนนำไปสู่ความรู้สึกการแบ่งชนชั้นในหมู่ประชาชน อย่างกว้างขวาง

4.มีการปลุกคนใต้ให้เกิดความรู้สึกหวงแหน และเป็นเจ้าของพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม ภายใต้วลี พรรคของเราคนของเรา ได้สำเร็จ

5.จากกระแสข่าวเรื่องการไร้มารยาทของพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งผู้สมัครซ่อม แย่งชิงที่นั่งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ จนเกิดความรู้สึกร่วมว่า พรรคประชาธิปัตย์ ถูกรังแกทางการเมือง มีการทุ่มเทการหาเสียงอย่างหนัก เปิดเวทีให้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นปราศรัยมากเป็นพิเศษ

6.เป็นการสั่งสอน และให้บทเรียนกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจรัฐ และอำนาจเงิน อำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ ในการเลือกตั้งซ่อม อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

7.กลุ่มฐานคะแนนเสียงที่เป็นกลาง และกลุ่มที่ไม่เอาเผด็จการระบอบ คสช. ได้เทคะแนนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต้องการให้ชนะพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคสืบทอดอำนาจของ คสช. ไปก่อน จึงทำให้คะแนนของพรรคก้าวไกล และพรรคกล้า ได้คะแนนน้อยกว่าที่คาดหมายกัน

ผลการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ น่าจะเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดของพรรคพลังประชารัฐ และน่าจะเป็นการส่งสัญญาณจากประชาชน ที่ต้องการจะหยุดความอหังกา การเหลิงอำนาจของพรรคพลังประชารัฐ ที่ย่ามใจมาตลอดว่า สามารถเอาชนะการเลือกตั้งซ่อมมาได้ทุกครั้งไม่มากก็น้อย”