7 ก.พ.60 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานล่าสุด จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) ซึ่งขณะนี้ทาง สปก. อยู่ระหว่างเร่งขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีการเช่าที่ดิน สปก. ของผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม หรือ “วินด์ฟาร์ม” จำนวน 18 บริษัท คิดเป็นพื้นที่รวม 620 ไร่ ทั้งในส่วนของ จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของเอกชน บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม ในพื้นที่ สปก.เขต อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมายเนื่องจากการใช้ที่ดินไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องกระบวนการพิจารณาอนุญาตและการทำสัญญาเช่าที่ดินในขณะนี้อีกได้ ภายใน 1- 2 สัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ยังมีการอนุญาตให้กับพื้นที่ จ.นครราชสีมา ไปแล้วรวม 7 บริษัท ในเนื้อที่ประมาณ 280 ไร่ ซึ่งปัจจุบันดำเนินกิจการแล้ว 2 บริษัท ในพื้นที่รวม 92 ไร่ และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 5 บริษัท ในพื้นที่รวมอีกประมาณ 190 ไร่ และในส่วนของจังหวัดชัยภูมิ มีการอนุญาตไปแล้วรวม 13 บริษัท เนื้อที่ประมาณ 380 ไร่ มีการดำเนินกิจการแล้ว 4 บริษัท ในพื้นที่รวม 118 ไร่ และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง 6 บริษัท ในพื้นที่รวมประมาณ 172 ไร่ , ยังไม่ก่อสร้างอีก 2 บริษัท และถูกยกเลิกโครงการ 1 บริษัท คือ บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม ตามคำสั่งศาลปกครองฯ และล่าสุดมีการสั่งยกเลิกเนื่องจากยื่นเอกสารสัญญาไม่ครบเพิ่มเติมอีก 1 บริษัท และมีอีก 1 บริษัทไม่ยอมมายื่นต่อสัญญาเพิ่มเติมอีก 1 บริษัทล่าสุด หลังมีคำสั่งศาลปกครองครั้งนี้ออกมาฯ
โดยหลังจากนี้ไปทาง สปก. จะเร่งเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดเข้ามาหารือภายในเดือนนี้ และนำข้อสรุปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบแนวทางการแก้ปัญหาครั้งนี้โดยด่วนต่อไป โดยผู้ประกอบการยังสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติจนกว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้งภายในไม่เกินสิ้นเดือน ก.พ. นี้
ขณะที่ด้าน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีส่วนเกี่ยวกับการดำเนินกิจการพลังงาน หรือส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างกังหันลมผลิตไฟฟ้า ก็มีรายงานว่ายังต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก สปก. เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการในอนาคตต่อไป เพื่อช่วยหาแนวทางในการลงไปส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ที่เหมาะสมมากขึ้นด้วยอีกทาง รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งหมดในกรณีที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่ยืนยันว่าขณะนั้นทั้ง 19 บริษัท มีเอกสารการครอบครองที่ถูกต้องครบถ้วน และ กกพ. ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว