จ.มุกดาหาร จัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ประจำปี 2560 เพื่อให้ประเพณีในบำเพ็ญบุญให้ทานสร้างสมบุญบารมี และจรรโลงพุทธศาสนาให้มั่นคงสถาพร
30 ม.ค.60 ที่วัดป่าศิลาวิเวก อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร นายศศิพงษ์ จันทรสาขา คณะกรรมการจัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ เปิดเผยว่า ชาว จ.มุกดาหาร ได้ร่วมกันจัดงานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ โดยมี นายนพดล ไพทูรย์ รองผู้ว่าราชการ จ.มุกดาหาร เป็นประธานในพิธี ซึ่งในงานข้าราชการ นักเรียน พ่อค้า ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และประชาชนชาวแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งในงานจะมีขบวนแห่ของชุมชนต่าง ๆ ร่วมกับโรงเรียนในเขตเทศบาลร่วมงานในครั้งนี้ มีผู้ร่วมงานประมาณ 500 คน
งานบุญข้าวยาคู บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดป่าศิลาวิเวก โดยได้รับประทานพระบรมสารีริกธาตุจากสมเด็จพระสังฆราช ประเทศศรีลังกา จำนวน 15 องค์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 58 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนชาวมุกดาหาร และความสามัคคี ปรองดองกัน ร่วมมือร่วมใจกันของชาวมุกดาหาร ที่จะได้มีโอกาสสักการะบูชาองค์พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งจะประดิษฐานเป็นการถาวร ณ วัดป่าศิลาวิเวก โดยพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับ ประกอบด้วย พระอังคุลีธาตุ (พระธาตุข้อพระหัตถ์ จำนวน 1 องค์) พระธาตุมัตตรุงคธาตุ (พระธาตุส่วนสมอง จากเมืองโคลัมโบ จำนวน 1 องค์) พระโลหิตธาตุ (พระธาตุส่วนที่เป็นเลือด จากเมืองโคลัมโบ จำนวน 12 องค์) พระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชศรีลังกา (สมเด็จพระมหานายกะ ฝ่ายอักษะคีรียา สยามนิกาย คีรีลังกา จำนวน 1 องค์) นอกจากนี้ยังได้รับหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระนางสังฆมิตาเถรี นำขึ้นเรือไปปลูกไว้ที่ประเทศศรีลังกา จากเมืองอนุราธปุระ
สำหรับคำว่า “ยาคู” เป็นคำมาจากภาษาบาลีแต่เดิม เป็นชื่อของยาชนิดหนึ่งที่ หมอชีวก โกมารภัจจ์ ปรุงเป็นโอสถถวายพระพุทธองค์ เมื่อทรงประชวรด้วยโรคลมอันเกิดจากช่องท้อง และมีที่มาในพระวินัยปิฎก มหาวรรคเล่มที่ 5 หมวด-เภสัชชขันธกะ หน้า 82 ข้อ 49 ความว่า “พระอานนท์ดำริว่าแม้เมื่อก่อนพระผู้มีพระภาคเจ้าประชวรโรคลมเกิดในอุทรก็ทรงพระสำราญได้ด้วยยาคู ปรุงด้วยของ 3 อย่าง คือ งา ข้าวสาร และถั่วเขียว มาปรุงรวมกัน แล้วถวายพระพุทธองค์ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล”
ทั้งนี้ ข้าวยาคูให้คุณประโยชน์ 10 อย่าง คือ ผู้ให้ข้าวยาคูชื่อว่าให้อายุ ให้ผิวพรรณ ให้ความสุข ให้กำลัง ให้ปฎิภาณ ให้กำจัดความหิว บรรเทาความกระหาย ทำให้ลมเดินคล่อง ล้างลำไส้ และย่อยอาหารใหม่ที่ยังเหลืออยู่ โดยหลังจากนั้นได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุแห่ไปรอบเมืองมุกดาหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชาว จ.มุกดาหาร และประดิษฐานไว้ที่วัดป่าศิลาวิเวก เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะต่อไป