ชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ตำบลตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ผลิตทุเรียนพันธุ์หมอนทองคุณภาพดี ส่งขายผ่านเว็บไซต์ทีมอล ของอาลีบาบากรุ๊ป เน้นการผลิตทุเรียนดี มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค หลังแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหารอาลีบาบา กรุ๊ป เดินทางมาประเทศไทยเพียงวันเดียวมียอดสั่งซื้อจากจีน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ด้านทางล้งรับซื้อทุเรียน เน้นคัดคุณภาพเพื่อถึงมือผู้บริโภคจำนวนมาก
เรียกได้ว่าเป็นกระแสฮือฮา หลังจากที่ “แจ็ค หม่า” ประธานกรรมการบริหาร อาลีบาบา กรุ๊ป ลงนามซื้อขายสินค้ากับรัฐบาลไทย โดยเฉพาะทุเรียน ทำให้ยอดการสั่งซื้อทุเรียนผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ดอทคอม (Tmall.com) ของเครืออาลีบาบา ซึ่งเป็นเว็บไซต์ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในจีนและเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 1,400 ล้านคนทั่วประเทศ มีมูลค่าถึง 80,000 ลูกภายในระยะเวลา 1 นาที โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสวนทุเรียนต้นตาล ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นทุเรียนของ นายบุญเรือง ประทุม เกษตรกรอายุ 62 ปี ที่ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองบนพื้นที่สวนรวม ๆ แล้วกว่า 40 ไร่ โดยในวันนี้ คนงานยังคงตัดทุเรียนภายในสวนที่พร้อมเก็บเกี่ยว และมีคุณภาพลงมาเพื่อส่งขายให้กับล้งแล้วกว่า 2 ตัน
นายบุญเรือง ประทุม เจ้าของสวนทุเรียน เปิดเผยว่า ตนเองทำสวนทุเรียนหมอนทองมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็มีการแซมพืชอื่น ๆ บ้างแต่เป็นส่วนน้อย ที่ผ่านมาตนเองไม่รู้จัก แจ็ค หม่า หรือ “อาลีบาบา” มีแต่เจ้าของล้งผลไม้ที่ทำสวนติดอยู่กับสวนตัวเอง เห็นผลผลิตของตัวเองแล้วชื่นชอบจึงเข้ามาพูดคุยเพื่อขอเหมาทุเรียนพันธุ์หมอนทองของตน โดยให้ราคากิโลกรัมละ 110 บาท ทุกขนาดทุกไซส์ คัดแยกเพียงตำหนิ แต่ทุเรียนจะตัดได้ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 120 วันไปแล้วเท่านั้น คือต้องได้คุณภาพ ไม่มีการตัดทุเรียนอ่อนออกไปสู่ท้องตลาด
นายบุญเรือง ยังบอกด้วยว่า ทุเรียนของตนตอนนี้ตัดออกขายไป 50-60 ตัน หรือ 50,000 – 60,000 กิโลกรัมแล้ว ยังคงเหลือทุเรียนอีกไม่มากเท่าใดนัก แต่ว่ายังจะคงคุณภาพของทุเรียนให้ดีเหมือนเดิม ที่สำคัญ คือ คิดว่าเป็นโอกาสดีที่ทางประเทศจีนมีออเดอร์ทุเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะหลังจาก แจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหารอาลีบาบา กรุ๊ป เดินทางมาประเทศไทยเพียงวันเดียว มียอดสั่งซื้อจากจีน 2 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว พร้อมฝากพี่น้องเกษตรกรรายอื่น ให้ช่วยกันรักษาคุณภาพทุเรียน เพื่อชื่อเสียงและช่องทางการตลาดที่มากขึ้นกว่าเดิม
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังล้งรับซื้อผลไม้ IMS FRUIT ในพื้นที่ ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นล้งรับซื้อทุเรียนที่บริษัท “ทีมอลล์ ดอทคอม” (Tmall.com) ของเครืออาลีบาบา กรุ๊ป คัดเลือกให้ส่งออกทุเรียนไทยไปยังประเทศจีน ซึ่งทางด้าน น.ส.จรินทร์ ศิริการ ฝ่ายจัดซื้อและ นายชานนท์ สงบจิต บุตรชายซึ่งเป็นผู้เลือกรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรชาวสวน กล่าวว่า ล้งรับซื้อทุเรียนได้รับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ อ.ขลุง และ อ.มะขาม เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน ปลายทางคือ Tmallfresh (ทีมอลล์ เฟรช) ก่อนกระจายผลผลิตไปยังพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน ทำให้มีชาวสวนนำทุเรียนมาขายให้กับล้งรับซื้อแห่งนี้เป็นจำนวนมากตลอดทั้งคืน
นายชานนท์ สงบจิต อายุ 27 ปี บุตรชายเจ้าของกิจการล้งทุเรียนที่ได้รับโอกาสในการส่งทุเรียนให้กับบริษัทอาลีบาบา เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ล้งของตนได้รับการคัดเลือกจากอาลีบาบา ให้ทำทุเรียนเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งตนเข้ามาช่วยงานแม่จะมีหน้าที่คัดเลือกผลผลิตที่จะรับซื้อจากเกษตรกรชาวสวนหรือเข้าไปตัดภายในสวนทุเรียน โดยที่ล้งรับซื้อทุเรียนทั้ง “พันธุ์หมอนทอง พันธุ์พวงมณี พันธุ์ก้านยาว และพันธุ์นกหยิบ” ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์โบราณ แต่ที่รับซื้อจำนวนมากและส่งออกคือ ทุเรียนหมอนทอง โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งออกทุเรียนไปแล้วกว่า 10 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือเป็นน้ำหนักกว่า 213,000 กิโลกรัม หากคิดเป็นมูลค่าก็อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งการเลือกทุเรียนนั้นจะต้องเลือกที่เปอร์เซ็นต์ดี ทรงสวย ผิวสวย และน้ำหนักไม่น้อยกว่า 2 กิโลกรัมต่อลูก ที่สำคัญคุณภาพของเนื้อต้องดี โดยราคาของทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่ตนรับซื้อตอนนี้ราคาหน้าแผงอยู่ที่กิโลกรัมละ 75-78 บาท
ขณะที่ Mr. Gao Mengdi (เกา มุ่งตี๋ – ภาพล่าง : คนขวา) ฝ่ายควบคุมคุณภาพชาวจีนของทีมอลล์ ดอทคอม (Tmall.com) ที่ได้รับมอบหมายให้มาควบคุมคุณภาพทุเรียนเพื่อส่งออกไปประเทศจีน เปิดเผยว่า เดิมทางบริษัทได้มีการรับซื้อผลไม้จากล้งดังกล่าวอยู่แล้ว แต่พอมาจับตลาดการค้าทุเรียนออนไลน์ มีลูกค้าชาวจีนให้ความสนใจสั่งซื้อทุเรียนกันเป็นจำนวนมาก และล้งรับซื้อผลไม้ IMS FRUIT แห่งนี้ก็เป็นแห่งเดียวในจังหวัดจันทบุรี ที่ส่งขายให้กับบริษัททีมอล์ ของเครืออาลีบาบา กรุ๊ป โดยการขายทุเรียนผ่านเว็บไซต์ Tmall.com จะเน้นเรื่องคุณภาพของทุเรียนเป็นอันดับ 1 มีการรับฟังความต้องการของลูกค้าหากลูกค้ามีการแนะนำ โดยมีอาลีบาบา เป็นผู้รับรองคุณภาพทุเรียน
สำหรับทุเรียนที่ชาวจีนชอบนั้น เหมือนกับคนไทย คือ รสชาติจะต้องหวาน มัน อร่อย ซึ่งหลังจากส่งทุเรียนไปขายได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะทุเรียนมีคุณภาพตรงตามความต้องการ และในอนาคตอาจจะมีรับซื้อผลไม้อื่นส่งออกเพิ่มเติมด้วย ซึ่ง Mr.Gao Mengdi (เกา มุ่งตี๋) บอกว่า อยากให้เกษตรกรของไทย ผลิตทุเรียนที่มีคุณภาพ ถึงอย่างไรก็ขายได้อย่างแน่นอน เพราะหากรักษาคุณภาพทุเรียนได้ จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับทุเรียนของไทยให้ชาวต่างชาติได้ชื่นชม ชาวสวนทุเรียนก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าคนจีนไม่ได้มาประเทศไทย แต่เขาสามารถรับประทานทุเรียนเหมือนมาประเทศไทยได้อีกด้วย