สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้ และภาคอีสาน ซึ่งทาง จ.ยโสธร ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน และยังท่วมพื้นที่เลี้ยงสัตว์อีกด้วย ทำให้ชาวบ้านพากันต้อนฝูงโค-กระบือ ของตนไปเลี้ยงตามริมถนนและบริเวณพื้นที่ของวัดใกล้เคียงหมู่บ้านที่น้ำท่วมไม่ถึง ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ชาวบ้านเริ่มได้รับความเดือดร้อน รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปยังหมู่บ้านได้
ชาวบ้านบางหยดเดือดร้อน น้ำจากกระบี่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน
วันนี้ (11 ส.ค.61) ชาวบ้านบางหยด ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี กว่า 80 ครัวเรือน ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมหลังน้ำจากจังหวัดกระบี่ไหลลงคลองอิปันเข้าท่วมบ้านเรือน ตั้งแต่ ต.บางสวรรค์ต.ไทรขึง ต.ไทรโสภา และต.อิปันก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำตาปี ทำให้ชาวบ้านเริ่มได้รับความเดือนร้อนรถทุกชนิดไม่สามารถเข้าไปยังหมู่บ้านได้
นายจำนง คงผอม ผู้ใหญ่บ้านบางหยด ม.8 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังทราบว่ามวลน้ำจาก อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมคลองอิปันตั้งแต่ ต.บางสวรรค์ ต.ไทรขึง ต.ไทรโสภา จนมาถึงบ้านบางหยด ต.อิปัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ส.ค.) ทำให้มีการเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งกระทั่งเวลา 24.00 น. ของคืนที่ผ่านมา มวลน้ำไหลเข้าท่วมเร็วมาก ชาวบ้านแต่ละบ้านได้ช่วยกันขนสิ่งของไว้บนที่สูง บางอย่างที่ขนไม่ทันก็ได้รับความเสียหายโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ระดับน้ำบนถนนในหมู่บ้านสูงประมาณ 70 ซม. – 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเดินทางเพียงอย่างเดียว ทำให้ชาวบ้านจำนวน 83 ครัวเรือนหรือ 258 คน ได้รับความเดือนร้อน
ส่วนระดับน้ำในคลองอิปันเริ่มขยับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจากจุดเตือนภัย 6.30 เมตร ขณะนี้มวลน้ำได้ขยับขึ้นเป็น 7 เมตร และทางหมู่บ้านได้เตรียมศาลาหมู่บ้านเป็นจุดอพยบหากมีมวลน้ำเข้ามามากก็จะขนย้ายชาวบ้านไปที่โรงเรียนบ่อพระ ซึ่งห่างจากจุดน้ำท่วมไปประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำตาปีที่รองรับน้ำจากคลองอิปัน ก็มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับแจ้งเตือน ระดับน้ำอยู่ที่ 9.96 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 17 เซนติเมตร เพิ่มที่ตอนล่างของแม่น้ำตาปี ควรเฝ้าระวัง
น้ำท่วมพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ชาวบ้านยโสธรต้อนโค-กระบือ เลี้ยงริมถนน
ส่วนที่ จ.ยโสธร หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำชีเป็นบริเวณกว้าง นอกจากจะไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านแล้ว ยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านอีกด้วย จนชาวบ้านไม่สามารถที่จะต้อนโค-กระบือ ของตนเองออกไปเลี้ยงหากินหญ้าได้เหมือนเช่นเคย โดยเฉพาะชาวบ้านหนองยาง ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย ซึ่งพื้นที่นาข้าวและพื้นที่เลี้ยงสัตว์ใกล้กับหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง ชาวบ้านจึงต้องนำโค-กระบือ ของตนไปเลี้ยงตามริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน และบริเวณพื้นที่ของวัดใกล้กับหมู่บ้านซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง เพื่อความปลอดภัยและให้โค-กระบือ เล็มหญ้าริมทางไปพลางๆ ก่อนดีกว่าที่จะขังเอาไว้ในคอก
และปัจจุบันโค-กระบือของชาวบ้านก็เริ่มขาดแคลนหญ้าสด เนื่องจากหญ้าสดตามพื้นที่เลี้ยงสัตว์และตามทุ่งนาใกล้หมู่บ้านถูกน้ำท่วมหมด ชาวบ้านที่เลี้ยงโต-กระบือ จึงไม่สามารถที่จะหาหญ้าสดไปให้โค-กระบือของตนได้กินได้ นอกจากต้องพากันนำรถยนต์ออกหาตระเวนเกี่ยวหญ้าตามพื้นที่สูงน้ำท่วมไม่ถึงซึ่งต้องเดินทางไกลออกไปอีก