จากกรณีที่นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการพานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี ล่าสุด ผู้พิพากษา ชี้ ยังไม่ผิดอาญา เพราะพาไปก่อนศาลออกหมายจับ พร้อมทั้งระบุว่า หาก 27 กันยายนนี้ ศาลยกฟ้อง หมายจับก็สิ้นสุดลง
ผู้พิพากษาจากศาลยุติธรรม เปิดเผยข้อกฎหมาย กรณีที่มีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการขับรถพา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนี ซึ่งจำเลยในคดีปล่อยปละละเลย ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว ว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม จะเป็นความผิดต่อเมื่อศาลมีการออกหมายจับเเล้ว ซึ่งคดีนี้ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่จำเลยไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษา การกระทำที่จะเป็นความผิด จะต้องเป็นการกระทำภายหลังจากที่ศาลออกหมายจับเเล้ว ถ้ามีการกระทำก่อนหน้านั้น จะไม่มีความผิด
ส่วน นายตำรวจ ที่พานางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางไปยังจังหวัดชายแดนนั้น เป็นก่อนวันที่ศาลออกหมายจับ ย่อมสามารถที่จะพาไปที่ไหนก็ได้ในประเทศ จึงไม่ถือว่าเป็นความผิดอาญา แม้ว่าตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ เอง ศาลได้สั่งห้ามออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจพา นางสาวยิ่งลักษณ์ ไปก็ถือว่าไม่มีความผิด เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่าวันฟังคำพิพากษาตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ จะมาฟังคำพิพากษาหรือไม่
ขณะที่ หมายจับของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีผลนับตั้งเเต่วันที่ศาลออกหมายจับ จนถึงวันที่ 27 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดอ่านคำพิพากษาลับหลัง หากศาลพิพากษาลงโทษ นางสาวยิ่งลักษณ์ ศาลก็จะออกหมายจับฉบับใหม่ ซึ่งเป็นหมายจับที่ให้นำตัว นางสาวยิ่งลักษณ์ มาลงโทษตามคำพิพากษาของศาล แต่หากศาลยกฟ้อง หมายจับที่เคยออกไว้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ให้นำตัวมาฟังคำพิพากษา ก็จะถูกยกเลิกไปในที่สุด