ชาวบุรีรัมย์ถึงกับฮือฮาพิธีแต่งงานระหว่าง “เจ้าบุญถึง” ฝ่ายเจ้าสาว ที่ผู้ใจบุญไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ และ “เจ้าบุญหลาย” ควายเพศผู้ ที่หนีตายจากโรงเชือด ก่อนที่ผู้ใจบุญจะไถ่ชีวิตนำมามอบให้โรงเรียนบ้านกระสัง ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดขบวนขันหมากแห่ไปสู่ขอเจ้าสาวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ขบวนแห่ขันหมาก เจ้าบุญหลาย ควายเพศผู้อายุประมาณ 2 ปี ที่หนีตายจากโรงเชือด แล้วไล่ขวิดเพชฌฆาตหนุ่มได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะวิ่งเข้าไปหลบในบ้านผู้ใจบุญ และได้ขอไถ่ชีวิตมอบให้กับทางโรงเรียนบ้านกระสังดูแล เมื่อเดือนพฤศจิกายน59 โดยมีนางจวงจันทร์ อาจจุฬา ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมคณะครู และนักเรียน ได้ร่วมกันแห่ขบวนขันหมากนำ “เจ้าบุญหลาย” ไปสู่ขอ “เจ้าบุญถึง” ควายเพศเมีย อายุประมาณ 2 ปีเศษ ซึ่งผู้ใจบุญได้ขอไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์ในราคา 28,000 บาท ซึ่งบรรยากาศภายในงานมงคลสมรสของทั้งสองตัว ถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่าย แต่ไม่ต่างจากพิธีแต่งงานของคน โดยมีการคล้องพวงมาลัยให้กับควายทั้งสองตัว ทันทีที่เจ้าบุญหลาย เห็นเจ้าบุญถึง ก็เดินปรี่เข้าหาทันที เหมือนกับแสดงอาการดีใจราวกับรู้ว่าจะได้เป็นคู่ชีวิตกัน นอกจากนี้ ยังได้นิมนต์พระมาประกอบพิธีสงฆ์เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับควายทั้งสองตัวด้วย ท่ามกลางคณะครู นักเรียน และผู้ใจบุญมาร่วมเป็นสักขีพยานรักของควายทั้งสองตัว ซึ่งผู้ที่มาร่วมงานยังได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วย ทำให้บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความชื่นมื่น และรอยยิ้มของผู้มาร่วมงาน
นายวัลลภ เรืองสุขศรีวงษ์ ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางครอบครัวก็ได้ทำบุญโดยการไถ่ชีวิตโค-กระบือ มอบให้กับวัด โรงเรียน และหน่วยงานต่างๆ มาโดยตลอด และเมื่อทราบว่าทางโรงเรียนจัดพิธีแต่งงานให้กับ “เจ้าบุญหลาย” และ “เจ้าบุญถึง” ก็รู้สึกดีใจ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดพิธีแต่งงานให้กับควาย แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีและได้อวยพรขอให้ทั้งคู่มีความสุขมีลูกเต็มคอก
สำหรับประวัติของ “เจ้าบุญหลาย” ควายเพศผู้ที่เป็นฝ่ายเจ้าบ่าว เป็นควายที่วิ่งหนีตายออกจากโรงเชือดและไล่ขวิดทำร้ายหนุ่มคนงานที่รับจ้างชำแหละวัวควายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปหลบในบ้านของนายเสรี พงศ์พณิช จากนั้นนายเสรี และภรรยา จึงได้ขอไถ่ชีวิตจากพ่อค้า เพื่อมอบให้ปศุสัตว์นำไปเข้าโครงการธนาคารโค-กระบือ แต่ระหว่างเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มาจับลูกควายตัวดังกล่าว กลับเกิดอาการตื่นตกใจวิ่งหนีเตลิดหายไป นานกว่า 3 เดือน พบควายตัวดังกล่าวไปโผล่อยู่ในโรงเรียนบ้านกระสัง ในสภาพผอมโซมีโคลนเต็มตัว และมีอาการเจ็บขา ทั้งครูและนักเรียน จึงช่วยกันล้างโคลนตมออก และนำหญ้ามาให้กิน พร้อมแจ้งนายเสรี ผู้ใจบุญที่ขอไถ่ชีวิตควายตัวดังกล่าวไว้ในราคา 15,000 บาท และได้มอบให้ทางโรงเรียนเป็นผู้ดูแลมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีภารโรง ครู นักเรียน ช่วยกันดูแลให้อาหารทำความสะอาดเป็นอย่างดี จนเกิดความรัก ความผูกพัน