ตำรวจคุมตัว นายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพทำแผนจุดฝังอำพรางศพพนักงานหญิงร้านคาราโอเกะในจ.ขอนแก่น ท่ามกลางชาวบ้านที่เข้ามาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่แม่และญาติของน้องแอ๋มที่เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ ไปฟังเสียงความรู้สึกของแม่ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป(คลิป)
เป็นความรู้สึกของผู้เป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป จากกลุ่มคนที่มีจิตใจทารุณโหดร้าย นางสายรุ้ง กลิ่นจุ้ย และนายสุชาติ คำเพลิงชัย พ่อแม่น้องแอ๋ม ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ นางสายรุ้ง กล่าวว่า เขาอาจจะสำนึกได้ แต่ถ้าเขาช่วย น้องแอ๋มก็อาจจะรอดยังไงถ้ายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง เห็นคนจะตายต่อหน้าก็ต้องช่วย ส่วนคนที่ฆ่าแอ๋มที่ยังหลบหนีอยู่ เชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ตอนนี้ถ้ายังกลับตัวกลับใจได้ ยังทัน ขนาดวิญญาณน้องแอ๋มโดนฆ่า ยังอภัยให้เพื่อนได้ จึงอยากให้สาวๆกลับมาซะ ถ้าสำนึกได้
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว นายวศิน มาสอบปากคำต่อหลังจากนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยระหว่างที่เดินลงมาได้พบนางสายรุ้ง กลิ่นชู มารดา ผู้เสียชีวิต นายวศินผู้ต้องหา ได้เข้าไปขอขมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าตนเองรู้สึกผิดและไม่คิดว่า เหตุการณ์จะถึงขั้นทำร้ายเอาชีวิต
ขณะที่ความคืบหน้าในทางคดี ล่าสุด พนักงานสอบสภ.เขาสวนกวางทำการสอบปากคำ น.ส.จิดารัตน์ พรมคุณ หรือ เบนซ์ หนึ่งในผู้ต้องหา โดยการ สอบปากคำ ทนายความของ น.ส.จิดารัตน์ ได้เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย จากการสอบปากคำ น.ส.จิดารัตน์ ให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าและหั่นศพน้องแอ๋ม เพราะในวันเกิดเหตุอาศัยอยู่กรุงเทพ แต่ยอมรับว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาหาจริง ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ร้อยตำรวจตรีพิบูลย์ เจริญสุข ทนายความของ น.ส.จิดารัตน์ ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว ตำรวจกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งคาดว่าตำรวจอาจไม่คัดค้านการประกันตัว เพราะจากการสืบสวนสอบสวน พบว่า ผู้ต้องหาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการฆ่าและให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
https://youtu.be/WllJsJicI-k
นอกจากนี้ มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ยืนยันว่า สาเหตุของการฆาตกรรม น้องแอ๋ม มีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเป็นผู้สั่งฆ่าตัดตอน หลังนำข้อมูลของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ไปแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาหลายรายในปี 2559 ในจำนวนนั้นมีสามีของ น.ส.เปรี้ยว รวมอยู่ด้วย ขบวนการค้ายาเสพติดจึงไม่พอใจ และมีคำสั่งตรงมาถึง น.ส.เปรี้ยว ที่ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ วางแผนทุกขั้นตอนจนนำไปสู่การก่อเหตุฆ่าหั่นศพ ส่วนการหนีเข้าไปในพื้นที่ประเทศเมียนมาร์ เป็นไปได้ที่ ผู้ที่พานางสาวเปรี้ยวและนางสาวเอริ์นหลบหนี จะพาทั้ง2ราย ไปกบดานอยู่ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง ในพื้นที่มีการผลิตยาเสพติด ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ แม้ต่รัฐบาลทหารเมียนมาร์ ยังไม่สามารถเข้าไปจัดการได้