ธนาคารโลกชี้เด็กไทยมีระยะเวลาเข้าเรียนเฉลี่ย 12.4 ปี แต่คุณภาพที่เด็กมีเทียบเท่าแค่ 8.6 ปี เหตุเพราะการศึกษาที่ไม่ได้มาตรฐาน เด็กไทยมีประสิทธิภาพเพียง 60% ของศักยภาพที่ควรมี ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าทุกประเทศในภูมิภาค จี้รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา
รายงานดัชนีทุนมนุษย์ของธนาคารโลก ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา รายงานถึงการดูแลสุขภาพและคุณภาพการศึกษาเด็กไทย ว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในภูมิภาค โดยเด็กไทยมีระยะเวลาเข้าเรียนเฉลี่ย 12.4 ปี แต่คุณภาพที่เด็กมีเทียบเท่าแค่ 8.6 ปี ซึ่งรายงานดังกล่าววัดผลรวมของทุนมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 18 ปี โดยให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพและคุณภาพทางการศึกษาในประเทศที่เด็กอาศัยอยู่ พิจารณาปัจจัย 3 ประการ ได้แก่ การอยู่รอด คือเด็กที่เกิดวันนี้และมีชีวิตรอดจนถึงวัยเรียน โรงเรียน คือเด็ก ๆ ได้รับการศึกษากี่ปีและได้เรียนรู้อะไรบ้าง และ สุขภาพ คือเด็ก ๆ มีสุขภาพดี ในวันที่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน และพร้อมจะเรียนต่อหรือเข้าสู่ตลาดแรงงานในฐานะผู้ใหญ่ เต็มตัวหรือไม่
รายงานดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า โดยเฉลี่ยเด็กไทยสามารถเข้าเรียนในระบบการศึกษาเป็นเวลารวม 12.4 ปี จนถึงอายุ 18 ปี แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพการเรียนรู้แล้ว เท่ากับเด็กได้รับการศึกษาเพียง 8.6 ปีเท่านั้น โดย 3.8 ปี ที่หายไปเป็นเพราะการจัดการศึกษาที่ยังไม่ได้มาตรฐาน
“ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการขยายการเข้าถึงการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีอัตราของ เด็กเตี้ยแคระแกร็นอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลตลอดเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีรัฐบาลยังต้องให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของคุณภาพการศึกษา เพื่อให้เด็กที่เกิดในวันนี้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาเป็นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ ในอนาคต” นางมารา เค วาร์วิค ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศบรูไนดารูซาราม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และประเทศไทยกล่าว
รายงานดัชนีทุนมนุษย์นี้ ยังระบุด้วยว่า เด็กที่เกิดใหม่ทั่วโลกร้อยละ 56 สูญเสียศักยภาพในการสร้างรายได้ตลอดชีวิตเกินกว่าครึ่ง เนื่องจากรัฐบาลใช้จ่ายงบประมาณเพื่อสุขภาพ การศึกษา รวมถึงการเตรียมประชาชนให้พร้อมกับงานในอนาคตอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ สำหรับประเทศไทยนั้น เด็กที่เกิดในวันนี้ จะมีประสิทธิภาพเพียงร้อยละ 60 ของศักยภาพที่พวกเขาควรจะมี ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มประเทศที่มีรายได้ระดับเดียวกัน (กลุ่มประเทศ รายได้ปานกลางค่อนข้างสูง) แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก
ขณะที่ นายจิม ยอง คิม ประธานกลุ่มธนาคารโลก ระบุว่า สำหรับกลุ่มคนที่ยากจนที่สุด ทุนมนุษย์เป็นทรัพยากรเพียงอย่างเดียวที่พวกเขาพึงมี เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม อย่างไรก็ตาม การลงทุนด้านสุขภาพและคุณภาพของการเรียนรู้ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
นายจิม ยอง คิม หวังว่า ดัชนีนี้จะเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ เดินหน้าอย่างเร่งด่วน เพิ่มการลงทุน และดำเนินการให้มีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนในแต่ละประเทศ