หลังการจับกุมและนำตัวไปทำแผน นายชัยยุท คงเจริญ หรือ เอ็ม พ่อเลี้ยงที่ก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกายเด็กหญิงวัย 10 ขวบเศษ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงอย่างทารุน จนบาดเจ็บสาหัสและยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สุมทรสาคร วันนี้ (8 มิ.ย.61)อาการของน้องดีขึ้นต่อเนื่อง
จินตนา จันทร์บำรุง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรสาคร เปิดเผยถึงอาการของน้องว่า ขณะนี้เด็กมีอาการยิ้มแย้ม แจ่มใสและพูดคุยได้ตามปกติ โดยบ่นอยากกลับบ้าน อยากไปหาเพื่อน แต่โชคดีที่เด็กได้ยายและป้ามาคอยอยู่เป็นเพื่อน จึงทำให้เด็กมีกำลังใจและฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เร็วขึ้น ซึ่งจะคงจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก็จะออกมาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ก่อน จากนั้นก็ต้องรอการประเมินผลทางครอบครัวว่า เด็กสามารถที่จะกลับไปอยู่ในความดูแลของยายได้หรือไม่ นอกจากนี้ ยังจะต้องให้นักจิตวิทยาและทีมสหวิชาชีพเข้าไปช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กอีกทางหนึ่งด้วย ตลอดจนก็ยังจะได้มีการประสานกับทางโรงเรียนในเรื่องของทุนการศึกษา และ พม.ของจังหวัดอ่างทอง เกี่ยวกับการดูแลสวัสดิการต่างๆ จากภาครัฐ ที่เด็กและครอบครัวยายที่ให้การดูแลพึงได้รับต่อไป
สำหรับความคืบหน้าทางคดี หลังคุมผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เมื่อวาน(7 มิ.ย.) พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผู้กำกับการ สภ.กระทุ่มแบน เผยว่า ขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ก่อน เนื่องจาก ขณะที่ สภ.ชะอำ เข้าควบคุมตัวมียาบ้าอยู่ในตัวจำนวน 10 เม็ด จึงต้องส่งไปดำเนินคดีดังกล่าวให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน แล้วก็จะขออายัดตัวกลับมาดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ตามข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่ เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ในส่วนของนายสมหมาย หวาดด้วงดี คนขับรถแท็กซี่พลเมืองดีที่นำเด็กหญิงมาส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ในวันที่ถูกทำร้ายนั้น างสภ.กระทุ่มแบน จะได้ขอใบประกาศเกียรติคุณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบไว้เพื่อแสดงตนการเป็นพลเมืองดีให้ต่อไป
