จากกรณีที่เพจดังได้แชร์เรื่องราวจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ไปเที่ยวกับแฟนในวันหยุด แต่เมื่อกลับมาที่พัก กลับถูกนายจ้างลงโทษด้วยการให้นั่งที่เก้าอี้ แล้วให้คนในร้านมาตบหน้าอย่างแรง จนมีการตั้งคำถามว่า นายจ้างมีสิทธิอะไรในการลงโทษลูกจ้างด้วยวิธีดังกล่าว ต่อมานายจ้างออกมาอธิบายว่า ได้ตั้งกฎไม่ให้เด็กขายยา หากพบก็จะลงโทษ ล่าสุด ตำรวจได้เข้าค้นบ้านเช่าดังกล่าวแล้ว
นี่คือคลิปเหตุการณ์ขณะที่หญิงสาว และสาวหล่อ กำลังถูกโมเดลลิ่งลงโทษด้วยการให้นั่งที่เก้าอี้แล้วให้คนในร้านมาตบหน้าอย่างแรง โดยเวียนกันตบ ก่อนที่เพจโซเชียลฮันเตอร์จะนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวจากสมาชิกเฟสบุ๊ครายหนึ่งมาแชร์ จนกลายเป็นกระแสดราม่าว่า นายจ้างมีสิทธิอะไรในการลงโทษลูกจ้างด้วยวิธีดังกล่าว ต่อมานายจ้างได้ออกมาโพสต์คลิปอธิบายว่า ได้ตั้งกฎไม่ให้เด็กขายยา หากพบก็จะลงโทษ
โดยพบว่าบ้านดังกล่าวอ้างว่า เป็นโมเดลลิ่งจัดหาโคโยตี้ มีเด็กในสังกัด 15-20 คน โดยมีเด็กที่เป็นทอม คอยชักชวนผู้หญิงเข้ามาในบ้าน เพื่อจะส่งเด็กไปตามร้านต่าง ๆ โดยโมเดลลิ่ง จะหักรายได้ และตั้งกฎว่า ห้ามคบกัน ห้ามหยุดพร้อมกัน ห้ามนอนด้วยกัน หากผิดกฎจะให้เวียนกันตบ ซึ่งพบว่า เด็กมีทั้งอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการทำโทษด้วยวิธีสุดโหด ยังมีข้อกังขา ว่า ธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ ผกก.สน.บางขุนนนท์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ร่วมกันตรวจสอบการเผยแพร่คลิปการลงโทษและแชร์ในสื่อออนไลน์ดังกล่าว จนทราบว่าบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ภายใน ซ.จรัญสนิทวงศ์ 35 เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เป็นบ้านที่เกิดเหตุ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบ นางพรรณวรท ควบคุม หรือ “นินิว” อายุ 34 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เป็นเจ้าของบ้าน ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น พบชาย 1 คน หญิง 15 คน ในจำนวนนี้มีทั้งผู้หญิง และทอม ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงนำมาที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติดทุกราย และจากการสอบสวนทราบว่า คลิปที่เผยแพร่ออกไปเป็นการทำโทษ เนื่องจากผู้หญิงในคลิปมีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนทอมมีพฤติการณ์คบกับผู้หญิงภายในบ้าน จึงลงโทษด้วยการตบหน้า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นหญิงที่ถูกตบหน้าได้ขอออกจากบ้านไป และมีคลิปเผยแพร่ออกมา
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ กับนางพรรณวรท พร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับ 500 บาท นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้หญิงรับจ้างเป็นโคโยตี้ เต้นที่ร้านแห่งหนึ่งใน ซ.สุขุมวิท 23 หรือ “ซอยคาวบอย” ส่วนทอมทำหน้าที่รับจ้างเสิร์ฟอาหาร โดยมีนางพรรณวรท และสามีคอยรับส่ง โดยแชร์ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำไฟ และค่าอาหาร
