ผอ.รพ.ภูมิพลอดุลยเดช รับเคสหญิงป่วยท้องโตเข้ารักษาตรวจอาการแล้ว หลังทุกข์ทรมานมานานกว่า 6 ปี ด้าน “ปวีณา”เดินทางพาหญิงป่วยไปรักษาด้วยตนเอง
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายประพันธ์ ซื่อตรง อายุ 53 ปี ชาวจ.กรุงเทพฯ อาชีพรับจ้างตกแต่งภายใน ได้พานางมาลี คำสินลา อายุ 50 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่ในสภาพท้องบวมโต ร่างกายซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เดินไม่ไหวต้องนั่งรถพยาบาลเดินทางมายังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากทุกวันนี้นางมาลีป่วยหนักต้องอยู่อย่างทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส และทางครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งที่มีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง โดยต้องการร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯช่วยหาโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาจากอาการที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
นายประพันธ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนกับภรรยาช่วยกันทำมาหากินสู้ชีวิตกันมา โดยนางมาลีทำงานเป็นช่างเสริมสวย แต่เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน นางมาลีก็มีรูปร่างที่เปลี่ยนไปโดยท้องเริ่มบวมโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังรับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยที่ไม่มีอาการที่จะบ่งบอกว่าเป็นโรคอะไร ตอนแรกทุกคนก็คิดว่าการที่นางมาลีท้องโตคงเป็นเพราะอ้วนจนลงพุงก็ได้ จนล่วงเลยมานานกว่า 3 ปี ท้องก็ยังบวมและใหญ่มากขึ้น คล้ายคนท้อง 6-7 เดือน ตนจึงพานางมาลีไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยแพทย์ได้ตรวจเลือดและนำตัวเข้าเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จากนั้นก็บอกว่า นางมาลีเป็นมะเร็ง หากจะต้องรักษาต้องให้คีโม ซึ่งตนกับญาติของนางมาลีก็คิดว่า การักษาด้วยวิธีดังกล่าวอาจจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพตามมาจึงยังไม่ได้ตัดสินใจรักษา จากนั้นทางโรงพยาบาลก็ได้ส่งตัวมาตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ซึ่งมีสิทธิ์บัตรทองอยู่ โดยแพทย์ดูจากประวัติคนไข้ ทำการตรวจตามขั้นตอน จากนั้นก็ได้บอกกับญาติว่า นางมาลีเป็นเนื้องอก ซึ่งจะมีการรักษาตามขั้นตอนหลายอย่าง จากนั้น นางปวีณา หงสกุล ได้โทรศัพท์ไปสอบถามและได้ขอรายละเอียดการรักษาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งนางปวีณา จะได้ประสานผู้อำนวยการโรงพยาบาล เพื่อขอให้นางมาลี เข้าทำการรักษาและสรุปผลการช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ได้ประสานไปยัง พล.อ.ต. สันติ ศรีเสริมโภค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อพา นางมาลี คำสินลา อายุ 50 ปี เข้าพบและตรวจอาการแล้ว โดยแพทย์จะทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุอาการป่วยและรักษาต่อไป