ผอ.ฉาวติดต่อขอมอบตัว31 ม.ค.นี้ ส่วนเด็กม.2 ผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือ เตรียมใช้กฏหมายบังคับ หวั่นเด็กมีปัญหาการเรียน
พ.ต.อ.คารม บุญสด ผู้กำกับการสภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมาเปิดเผยว่าผอ.วัย 51 ปี ที่มีความสัมพันธ์กับเด็กหญิง ม.2 และลูกศิษย์คนอื่นๆ อีก 2 ราย ได้ติดต่อผ่านทางพนักงานสอบสวนว่าจะขอเข้าพบตำรวจในวันพุธที่ 31 มกราคม 2561 นี้ แต่ยังไม่ได้ระบุเวลา ซึ่งหากผอ.เข้ามาพบพนักงานสอบสวนจริงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามกระบวนการของกฏหมายซึ่งตนเองก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะที่เมื่อวานนี้ มีผู้ปกครองพาเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกันกับน้องแนท(นามสมมุติ) เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดผอ.รายนี้ ในข้อหากระทำอนาจารลูกสาว โดยให้การว่า เมื่อช่วงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา ลูกสาวเคยถูก ผอ.ฉาวรายนี้ได้ชักชวนขึ้นรถยนต์ และกระทำการลวนลามจับมือ จับแขน ลูบขาในรถยนต์ของ ผอ. พร้อมชักชวนให้ไปมีเพศสัมพันธ์ โดยเสนอเงินค่าตอบแทนให้เป็นจำนวน 2,000 บาท และเสนอให้เป็นภรรยาเก็บ แต่ลูกสาวไม่ตกลง
โดยก่อนหน้านี้ ก็มีเหยื่ออีกรายเป็นนักเรียนหญิงชั้นป.6 ที่ตกเป็นเหยื่อของผอ.รายยี้เช่นกัน แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนิคดี เพราะผอ.ได้จ่ายค่าเงินจำนวน 2 แสนบาท แลกกับการจบเรื่องไม่เอาผิด ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจชุดพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร และกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี กับผอ.รายยี้ต่อไป
ส่วนน้องแนทนักเรียนชั้นม.2 ที่หายตัวไปพร้อมกับผอ.นั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 6 เร่งหาตัวเด็กหญิงม.2 เข้าสู่กระบวนการเยียวยาสภาพจิตใจและวางแผนอนาคตการเรียนหลังเด็ดขาดเรียนติดต่อกัน 5 วัน ครูและเพื่อน ๆแสดงความเป็นห่วงจะเรียนหนังสือไม่ทัน และขาดสอบไปหลายวิชา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบว่า นักเรียนชั้นม.2 กลับมาที่บ้านพักแล้ว แต่ผู้ปกครองไม่ยอมให้ออกจากบ้านและไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุย อ้างว่าลูกสาวสภาพจิตใจไม่ดี เครียด ตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น ยังไม่พร้อมจะให้การใดๆ และยืนยันว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น แถมยังพาลูกสาวไปเดินห้างสรรพสินค้าจับจ่ายซื้อของ ใช้ชีวิตเหมือนปกติ
นายบุญธรรม เทินสระเกษ เจ้าพนักงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 กล่าวว่า ท่าทีของผู้ปกครองไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควรลักษณะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับเด็กนักเรียน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือเด็กนักเรียนผู้เสียหายยังไม่ได้รับฟังอะไรเลยจากปากเด็ก ม.2 เลยยังต้องรอให้เด็กพร้อม พร้อมเยียวยาช่วยเหลือ หาที่เรียน ดูแลครอบครัว ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องผอ. เป็นหน้าที่ของ ผอ.จะไปแก้ต่างกับ พนักงานสอบสวนขอให้น้องออกมาโรงเรียนมาพบครูประจำชั้น ทุกคนรอให้ความอบอุ่นเหมือนลูกคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามหากผู้ปกครองยังมีท่าทีบ่ายเบี่ยงไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่พร้อมจะใช้กฎหมายบังคับหากพบข้อมูลหลักฐานว่ารับเงินหรือรับผลประโยชน์จากใคร อาจเข้าข่ายผิดค้ามนุษย์